ผช.รมต.ศึกษากระทุ้ง กยศ.ให้คำนึงถึงเด็กที่อยากเรียนหนังสือ เผยกรณีที่เด็กกู้ยืมเงิน กยศ.ไปทำงานหาเงินระหว่างเรียนไม่น่าจะผิดหลักเกณฑ์
20 ม.ค. 2567, 09:27
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมพรหมพิมาน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ดร.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ผช.รมต.ประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงกรณีที่นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าร้องทุกข์กับ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากว่า ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปนานกว่า 8 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ล่าสุดทาง กยศ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ กยศ.จำนวน 8 คน มาทำการสอบถามข้อมูลการขอกู้เงินจาก น.ศ.จำนวน 517 ราย แต่ว่ามี น.ศ.มากรอกแบบสอบถามเพียง 5 รายเท่านั้น และได้พากันนั่งคุกเข่ายกมือไหว้อ้อนวอนเจ้าหน้าที่ กยศ.อย่าตัดเงินกู้ยืมเรียนของพวกตน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นว่า เรื่องนี้จะต้องฝากไปทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ดูแลด้วยคือแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้ควรที่จะได้มีโอกาสได้รับการศึกษากันทุกคนเท่าที่เขามีความประสงค์อยากเรียน
ดร.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ผช.รมต.ประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ตนเห็นด้วยในเรื่องที่จะต้องมีกองทุนที่นักศึกษาสามารถกู้ยืมได้เพื่อการศึกษาโดยที่เขาไม่ต้องมีภาระ แต่ทั้งนี้ในรายละเอียดก็ต้องว่ากันคืออยากให้ใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยการที่ดูเป็นรายกรณี น่าจะเป็นประโยชน์ แน่นอนว่าอาจจะมีประเด็นที่บอกว่าอาจจะผิดเงื่อนไขของ กยศ. หรืออย่างไรก็ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายก็จะมีเด็กได้รับผลกระทบ ตนจึงอยากให้ทาง กยศ.ได้มีการทบทวนกันให้ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือกองทุน กยศ.ซึ่งกองทุน กยศ.ก็ต้องรักษาสิทธิ์ของท่าน ในขณะเดียวกันก็อยากจะฝากเรื่องของเด็กๆ ที่เขามีความตั้งใจอยากเรียนด้วย
ดร.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ผช.รมต.ประจำกระทรวงศึกษาธิการ ยังกล่าวด้วยว่า กรณีที่เด็กนักศึกษาต้องไปหางานทำเพื่อนำเงินเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนและการดำรงชีพนั้น ตนเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ก็อยู่ที่การเจรจาต่อรอง ตนไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องของการผิดเงื่อนไขทั้งสิ้น เพราะว่าการทำงานนี้เป็นลักษณะพาร์ทไทม์ มันก็ย่อมได้ แล้วทาง กยศ.ต้องเข้าใจสภาพว่า เด็กเรียนที่มาขอกู้เงิน กยศ.คือ เด็กที่ยากจนอยู่แล้ว เงื่อนไขของเขาคือยากจนอยู่แล้ว และเงินสำหรับการใช้ชีวิตของเขามันคงไม่ใช่เฉพาะเงินค่าเล่าเรียน เงินค่าดำรงชีพของนักศึกษาเท่านั้นที่มีความจำเป็น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะนำเอามาเป็นหลักเกณฑ์สำคัญ ตนขอให้กำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง กยศ.ที่รักษาประโยชน์ของท่าน แต่ก็ขอว่าให้คำนึงถึงเด็กที่มีความตั้งใจอยากจะเรียนหนังสือด้วย และควรเร่งดำเนินการอนุมัติเงินกู้ให้กับเด็กที่ยื่นกู้เงินถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ของ กยศ.อย่างเร่งด่วนด้วย