เรื่องราวความเชื่อสู่ความรักของหนุ่มชาวไทยวัย 49 ปี พบรักหญิงสาวชาวเมียนมาวัย 19 ปี ขอแต่งงานตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าขณะนั่งขายผลทุเรียนอยู่ในอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพรเชื่อในนิมิตว่าเป็นคู่กันตั้งแต่สมัยอดีตชาติเมื่อ 300 ปี  เป็นทหารเสือพระเจ้าตากไปรบที่หงสาวดี ประเทศเมียนมา(พม่า) ข้ามไปเมียวดี เจอหญิงคนรัก พรหมลิขิตให้มาพบเจอเลยอีกครั้งไม่ลังเลพร้อมใช้ชีวิตคู่ร่วมสร้างครอบครัวด้วยกัน

        เช้าวันที่ 20  ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 52/4 หมู่ 4 ตำบลบ้านนา อำเภอเมือง จ.ชุมพร มีพิธีมงคลสมรสระหว่างนายธนภัท  ธาดาธนาเดชาโชติ หรืออ๊อดไทยฉิม อายุ 49 ปี หนุ่มใหญ่ชาวไทย  กับนางสาว Sondar Cho หรือน้องฟ้า อายุ 19 ปี สาวชาวเมียนมา โดยมีนายสมปอง  และนางจำนงค์  ไทยฉิม พ่อแม่เจ้าบ่าว พร้อมด้วยนายโซและ  นางเวมาอู้  พ่อแม่ เจ้าสาว ร่วมในพิธี โดยฝ่ายเจ้าบ่าวนุ่งโจงกระแบนสีน้ำตาลเข้มสวมเสื้อแขนยาวไหมไทยสีครีม  ส่วนเจ้าสาวสวมใส่ชุดไทยพาดสไบสีขาวทั้งชุดประดับด้วยเพชร

         อีกทั้งมีแขกเหรื่อญาติและเพื่อนทั้งสองฝ่ายต่างร่วมแสดงความยินดีโดยเฉพาะญาติและเพื่อนทางฝ่ายเจ้าสาวสัญญาติเมียนมาต่างแต่งชุดประจำชาติร่วมในพิธี  ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักของคนไทยกับสาวชาวเมียนมาตกลงปลงใจแต่งงานตามประเพณีไทยพบไม่บ่อยนักในจังหวัดชุมพร

        บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่นของญาติทั้งสองฝ่าย สองสัญชาติและทำพิธีอย่างเรียบง่าย โดยในช่วงเช้าทำพิธีทางศาสนานิมนต์พระภิกษุสงฆ์สวดพุทธมนต์เจ้าบ่าวเจ้าสาวตักบาตรถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์ ทำบุญกรวดน้ำ หลังจากนั้นเจิมหน้าผากบ่าวสาว สวมมงคล พ่อแม่บ่าวสาวคล้องมาลัย และร่วมกันรดน้ำสังข์อวยพรคู่บ่าวสาว 

      ขณะเดียวกันนายโซและ พ่อเจ้าสาวชาวเมียนมา  อวยพรผ่านล่ามบอกว่า “ให้ทั้งสองคนมีความสุขร่ำรวย รักกัน อย่าทะเลาะกัน” หลังจากญาติและเพื่อนทั้งสองฝ่ายรดน้ำสังข์เสร็จก็ถ่ายภาพความประทับใจ ความปลื้มปิติยินดีเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

        นายธนภัท เจ้าบ่าวชาวไทย  กล่าวว่า  ตนเองมีอาชีพเป็นพ่อค้ารับซื้อทุเรียนไปส่งตลาด อตก.ในกรุงเทพฯ เจอเจ้าสาวที่ตลาดอำเภอท่าแซะ ขณะนั่งขายทุเรียนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและไม่ทราบว่าเป็นชาวเมียนมาร์ครั้งแรกที่เห็นขอแต่งงานทันที 

         ด้านนางสาวฟ้า เจ้าสาว บอกว่า ได้ยินขอแต่งงานตอนแรกก็ไม่เชื่อ หลังจากนั้นเจ้าบ่าวก็โทรหาบ่อย แต่รับว่าเห็นป๊า(เจ้าบ่าว) ก็หลงรักเลยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถามว่าทั้งสองคนต่างคนต่างเชื้อชาติจะมีกำแพงปัญหาหรือไม่  นางสาวฟ้าบอกว่า ไม่มีปัญหาใดๆพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่รับรู้เห็นด้วยกับความรักของเราทั้งสองคน ไม่ได้กีดกัน

         ทางด้านนายธนภัท  กล่าวเสริมว่า  เดิมก่อนหน้านี้ตนเองได้สร้างล้งทุเรียน สร้างบ้านเสร็จ ติดตั้งหิ้งพระเจ้าตากสินเสร็จเรียบร้อย กลางคืนนอนหลับฝันเห็นพระเจ้าตากสินถามว่า “เมียอยู่ไหน เดี๋ยวกูจะเรียกเมียต่างภพต่างชาติมาเจอกับมึง”  อีกไม่กี่วันก็เจอเจ้าสาวนั่งขายทุเรียน ตนเองเชื่อเพราะมีประวัติความเป็นมาเรื่องความเชื่อนี้ทุกอย่างมีที่ไปที่มาจึงได้มาเจอเจ้าสาว 

          เจ้าบ่าว  กล่าวอีกว่า  ย้ำว่าไม่ได้จีบเขาเลยด้วยพรหมลิขิตอดีตชาติ 300 ปี เจ้าสาวซึ่งเดิมก็ไม่ชอบคนแก่ แต่รอป๊า (เจ้าบ่าว)เจ้าสาวฝันเห็นตนในอดีตชาติเหมือนกัน   ส่วนตนเองนั้นเท่าที่รู้เลือนๆมาว่าเป็นทหารพระเจ้าตากไปรบที่หงสาวดี ข้ามไปเมียวดีเจอกับ เจ้าสาว และทำให้เจ้าสาวหลงรัก ก่อนตาย เจ้าสาวอธิฐานว่าชาติหนึ่งชาติใดขอให้เจอกับชายรักคนนี้ รอ 300 ปี คือประวัติความเป็นมาก่อนถึงวันนี้”

       ส่วนบรรยากาศงานเลี้ยงช่วงเย็นมีแขกเดินทางมาร่วมเป็นเกียรติในงานเป็นจำนวนมาทั้งชาวเมียนมาที่เป็นญาติฝ่ายหญิงและญาติเพื่อสนิทมิตรสหายฝ่ายชาย โดยร่วมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนร่วมรับประทานอาหารร่วมกันอย่างชื่นมื่นและร่วมแสดงความยินดีต่อคู่บ่าวสาวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีรำถวายพระเจ้าตากสินจากคณะ อสม.รพสต.บ้านนา ชมรมสุขภาพดี๊ดี@ บ้านนา และรำอวยพรแก่บ่าวสาวด้วย

        นายสมปอง  ไทยฉิม  อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นพ่อเจ้าบ่าวชาวไทย  กล่าวว่า  ลูกชายบอกว่าจะแต่งงานกับสาวสัญชาติเมียนมา ตนเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรพร้อมและดีใจกับลูกชาย ซึ่งญาติฝ่ายเจ้าสาวก็ไม่ได้เรียกร้องสินสอดทรัพย์สินใดๆ หลังแต่งลูกชายและลูกสะใภ้ก็จะรับซื้อทุเรียนส่งตลาด อตก.ในกรุงเทพฯด้วยกัน  โอกาสนี้ขออวยพรให้ลูกชายและลูกสะใภ้ขอให้มีความสุข  ความเจริญก้าวหน้า  รุ่งเรืองในอาชีพทั้งคู่”