เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เสรี" นำ 98 รายชื่อ สว. ยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป คาดซักฟอก ก.พ.นี้


22 ม.ค. 2567, 15:48



"เสรี" นำ 98 รายชื่อ สว. ยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป คาดซักฟอก ก.พ.นี้




วันนี้ ( 22 ม.ค.67 ) สื่อรัฐสภา TPchannel รายงานว่า ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รับการยื่นเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 153 จาก นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะ โดยญัตติดังกล่าวมี สว. 98 คนร่วมลงชื่อ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การเสนอญัตติด้วย สว.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่

ประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังรับยื่นญัตติว่า การยื่นญัตติครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จากนี้ตนจะส่งหนังสือตามขั้นตอนของธุรการ เพื่อให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตรวจสอบว่าคำร้องเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 153 หรือไม่ ก่อนประสานไปยังคณะรัฐมนตรี และนัดวันที่เหมาะสม เพื่อมาตอบชี้แจงคำถาม ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ทราบว่าผู้ร้องต้องการให้เกิดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ทั้งนี้ต้องรอความพร้อมของคณะรัฐมนตรีด้วย

นอกจากนี้ ยังตอบข้อถามถึงการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ในครั้งนี้ จะถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงส่งท้าย สว. ก่อนหมดวาระหรือไม่นั้น ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร กล่าวว่าคงไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้ แต่เป็นการกระทำตามหน้าที่ เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดก็ไม่มีปัญหาอะไร จะโบว์แดงหรือโบว์ขาว เป็นเรื่องที่ทุกท่านจะตระหนักเอง ตนคงพูดไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนพูดได้ คือ เข้าใจในวัตถุประสงค์ของ สว. ที่ขอยื่นอภิปราย เพื่อต้องการให้ชี้แจงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ด้าน นายเสรี กล่าวว่า สว. เห็นความสำคัญ และประโยชน์ของการบริหารแผ่นดินของรัฐบาล แม้บางส่วนจะบอกว่า สว. จับผิดการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ในระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลต้องเริ่มดำเนินการทำสิ่งที่หาเสียง และได้แถลงนโยบายไว้ ซึ่งอยากให้ประชาชนได้เห็นว่าระยะเวลาที่ สว. ทำหน้าที่ แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดจึงยื่นอภิปรายรัฐบาลนี้ ซึ่งตนมองว่ารัฐบาลปัจจุบันกับรัฐบาลที่แล้วไม่ต่างกัน พรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นพรรคเดิม และการยื่นอภิปรายเป็นภารกิจสำคัญ ทำให้ไม่เกิดความเสียหาย มีแต่ให้บ้านเมืองดีขึ้น ช่วงระยะเวลา 3-4 เดือนที่เหลืออยู่ สว. จะทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการยื่นญัตติในวันนี้ และเชื่อว่าการอภิปรายอาจจะมีผลในเชิงบวกที่รัฐบาลสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดวุฒิสภาไม่เคยอภิปรายรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อภิปรายในช่วงก่อนหมดวาระ สว. นายเสรี แจงว่า ในช่วง 3 ปีแรกของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ แก้ปัญหาโควิด-19 เหลืออีก 1 ปี ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากจนเป็นเหตุให้ต้องเปิดอภิปราย โดยยืนยันว่าการยื่นญัตติขึ้นอยู่กับช่วงเวลา แต่ปัจจุบันปัญหามีมาก ไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำงาน แต่ประเด็นที่ยื่นอภิปรายเป็นประเด็นที่ควรพูดในวุฒิสภา เพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหา ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้อง รัฐบาลน่าจะแก้ไขได้เร็วกว่านี้ แต่ก็วนเวียนกับการแจกเงินดิจิทัลที่ไม่สำเร็จ และดูมีปัญหาเยอะ รัฐบาลพูดมาตลอดว่าเศรษฐกิจไม่ดี กระบวนการยุติธรรมมีปัญหามาก หากรัฐบาลไม่รักษามาตรฐานความเป็นธรรม ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ หาช่องทางที่เอื้อผลประโยชน์กับบางคนบางกลุ่ม จะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง

เมื่อถามว่า กระบวนการยุติธรรมด้านกฎหมาย อาจจะเกี่ยวข้องกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ จึงขอเปิดอภิปราย ก่อนที่จะมีการปรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ นายเสรี ย้ำว่า ไม่ได้เน้นที่ตัวบุคคล แต่เน้นที่กระบวนการและโครงสร้างข้อกฎหมายให้เป็นธรรม ต้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรม ทุกคนจะต้องเท่าเทียมกัน ส่วนการอภิปรายคราวนี้ สว. จะใช้เวลาในการอภิปรายกี่วัน และมีผู้อภิปรายกี่คน นายเสรี เผยว่า จะใช้เวลา 2 วัน ส่วนผู้อภิปรายได้แสดงความจำนง 98 คน

เมื่อถามว่า นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะมีข้อแนะนำรัฐบาลว่าจะเดินต่อหรือทบทวน เพราะมีหลายฝ่ายเห็นต่าง นายเสรี เผยว่า รัฐบาลต้องการจะแจกเงินดิจิทัลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตนก็มีคำถามว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ เงินที่จะแจกคนละ 10,000 บาท เอาเงินมาจากไหน นโยบายหาเสียงชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นสัญญาว่าจะให้หรือไม่ เพราะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ให้เหตุผลว่าอันตรายกับประเทศ รัฐบาลต้องคิดให้ดี เป็นหนี้ 5 แสนล้านบาท การจะช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีหลายวิธี การนำเงิน 10,000 บาท ไปแจกทุกคนก็จะใช้หมด แต่หนี้ที่เกิดขึ้นมหาศาลไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่ จึงต้องนำมาพูดกันในที่ประชุมวุฒิสภา









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.