"พิธา" รอด! คดีหุ้นสื่อ ศาลรธน. ชี้ไอทีวีไม่ใช่สื่อ
24 ม.ค. 2567, 14:58
วันนี้ (24 ม.ค.2567) เวลา 14.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งอ่านคำวินิจฉัย เรื่อง คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสถานภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีนายพิธา ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นับแต่วันที่ 19 ก.ค.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ว่า ยืนยันศาลไม่ได้ล่าช้า และการที่แสดงความคิดเห็นของผู้ถูกร้อง เกี่ยวกับคดีในสื่อต่างๆนั้น ถือว่าไม่สมควรและไม่เหมาะสม เพราะการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะบวกลบก่อนศาลวินิจฉัย อาจเป็นการชี้นำ กดดันศาล ฉะนั้น การกระทำอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสม ขอเตือนไว้ด้วย
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอวินิจฉัยได้ มีประเด็นพิจารณาว่าสมาชิกภาพสส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากข้อพิรุธหลายประการ ฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องโอนหุ้นดังกล่าวจริง ถือว่าถือหุ้นไอทีวีอยู่ในวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อต่อ กกต.ในฐานะผู้ร้อง
จึงต้องมีข้อพิจารณาต่อไปว่า ไอทีวี ประกอบกิจการสื่อสารมวลชนหรือไม่นั้น จากการไต่สวนฟังได้ว่า ไอทีวีไม่มีสิทธิประกอบกิจการโทรทัศน์ตามกฎหมายตั้งแต่ 7 มี.ค.2550 แต่ที่ยังคงสถานะเดิมเพื่อดำเนินคดีในชั้นศาลเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ปรากฎว่าบริษัทมีรายได้จากกิจการสื่อมวลชน แต่มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรัฐ
ตั้งแต่สำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) บอกเลิกสัญญาจนถึงปัจจุบัน ไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชน และไม่ปรากฎหลักฐานมีใบอนุญาตจดแจ้งการพิมพ์และประกอบการกิจการโทรทัศน์
ดังนั้น วันที่ผู้ถูกร้องสมัครสส. ไอทีวี มิได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อใดๆ การถือหุ้นของผู้ถูกร้อง จึงไม่ทำให้มีลักษณะต้องห้ามสมัครสส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3)
วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพสส.ของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตาม ม.101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)