กรณี ด.ช.วีรยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องทู อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนนครนนท์วิทยา1(วัดท้ายเมือง) และเป็นนักพากษ์แข่งขันเรือยาวรุ่นจิ๋ว ออกเป็นอาสาสมัครกู้ภัยศูนย์วิทยุชาลีกรุงเทพฯ เข้าช่วยเหลือรถเก๋งที่ประสบอุบัติเหตุ บริเวณใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน อ.เมือง จ.นนทบุรี แล้วถูกรถเก๋งเฉี่ยวชนซ้ำซ้อนกับรถที่จอดยางแตก จนกระเด็นข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง และถูกรถเก๋งอีกคันชนซ้ำจนเสียชีวิต เมื่อคืนที่วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค.2567 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ นายคมสันต์ (ขอสงวนามสกุล) อายุ 54 ปี คนขับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ทะเบียน 6กด330 กรุงเทพฯ ขับชน ด.ช.วีรยุทธ เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชัชวาล สุวรรณหงษ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และเจรจาตกลงกับพ่อของเด็กผู้เสียชีวิต

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้รับผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 206 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีข้อหาขับรถในขณะมึนเมาสุราโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นเสียชีวิต มีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า นายคมสันต์ได้ร่วมเจรจาตกลงค่าเสียหายกับ นายปรีชา (พ่อของน้องทู) โดยทางฝั่งนายปรีชาได้เรียกร้องค่าเสียหายค่าสินไหมทดแทนทดแทนกรณีลูกชายเสียชีวิต จำนวน 1 ล้านบาท โดยไม่รวมกับประกัน พ.ร.บ. และประกันภาคสมัครใจ

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวว่า โดยนายคมสันได้รับทราบข้อเสนอ ขอกลับไปพิจารณาก่อนเป็นเวลา 7 วัน และในวันที่ 31 ม.ค. เวลา 15.00 น. จะนัดเจอกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกข้อตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนไว้

นายปรีชา กล่าวว่า เงิน 1 ล้านบาท คำนวณจากอนาคตของลูกของตนที่เขามีความใฝ่ฝันไว้อีกเยอะ ซึ่งเงิน 1 ล้านบาทนี้เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่คุ้ม แต่เมื่อลูกชายได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย