วันที่ ( 28 ม.ค.67 ) กรณีที่มีคำสั่งของกระทรวงยุติธรรม เรื่อง การแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภาคประชาชน โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 44 คน โดยมีหน้าที่เสนอข้อคิดข้อเสนอแนะ พิจารณาและจัดทำแนวทางในการแก้ไข และประสานความร่วมมือ และร่วมดำเนินการกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อพิจารณาสั่งการตามความเหมาะสม

ในขณะเดียวกันมีกระแสสังคมตั้งคำถามกับการตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าวถึงความเหมาะสมเนื่องจากมีคณะทำงานบางคนที่มีบุคคลในครอบครัวถูกดำเนินคดียาเสพติดถึงสองครั้ง และเคยมีการตรวจค้นภายในบ้านพักแล้วพบยาเสพติดเมทแอมเฟตามีนจำนวนกว่า 150 เม็ด

นายทวี สอดส่อง รมต.ยุติธรรม เผยว่า จริงๆ แล้ว ทาง กอ.รมน. , ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทุกภาคส่วน ต่างทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มความสามารถ กรณีแต่งตั้งภาคประชาชน หรือมวลชนขึ้นมา แก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อมาช่วยส่งเสริมสนับสนุน เพราะเป้าหมายสุดท้ายที่เราวางไว้ คือ จะทำให้ทุกหมู่บ้านทุกชุมชน ได้ถูกแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขที่เรามองข้ามแค่การบำบัดรักษาหรือเลิกเสพยา เราก็จะมองไปถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในหมู่บ้าน โดยอย่างน้อยๆ ต้องมีมาตรฐานขั้นต่ำ ซึ่งเมื่อทุกคนได้รับการแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้ว ทุกคนก็ต้องมีอาชีพ มีงานทำ และมีโอกาส เลยต้องให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งปัจจุบัน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นทางผ่านของยาเสพติด และเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเส้นทางยาเสพติดมาจากภาคอีสานไปประเทศเพื่อนบ้าน เราจะควบคุมยาก ซึ่งการมาแก้ปัญหา จะแก้ที่ดี โดยจะต้องยกระดับคุณภาพชีวิต และสังคมให้ดี ให้มีอาชีพ

“ส่วนกรณีการแต่งตั้งคณะทำงานนั้น มีการเสนอชื่อมาจากส่วนล่าง ซึ่งบุคคลที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางเราไม่ได้มองถึงขนาดนั้น แต่ทุกคนจะต้องมาระดมความคิด ที่สำคัญก็คือ วันนี้ได้แนวความคิดและมุมมองที่หลากหลาย ซึ่งตัวบุคคลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็น ท่านวิชาญ กับ พล.ต.ท.ภัทรวุฒิ จะดู ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า เราไม่ได้เช็คถึงประวัติ ขนาดนั้น แต่ทุกคนก็มีความพร้อมใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติด