แนวทางการเลือกตู้เสื้อผ้า ให้ตอบโจทย์สำหรับการใช้งาน

ตู้เสื้อผ้า เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์สำคัญอีกหนึ่งชิ้นที่ทุกบ้านจะต้องมี และหากเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านอาศัยอยู่ร่วมกันหลายคน อาจจะต้องมีตู้เสื้อผ้ามากกว่า 1 ตู้ ซึ่งแน่นอนว่าตู้เสื้อผ้านั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยให้บ้านหรือห้องนอนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น เป็นที่เก็บแขวนเสื้อผ้ารวมถึงสิ่งของต่างๆ อาทิเช่น ชุดชั้นใน, เครื่องประดับ, เข็มขัด, แว่นกันแดด เป็นต้น และนอกเหนือจากนี้แล้ว ตู้เสื้อผ้ายังสามารถที่จะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านให้มี Mood & Tone สวยตรงตามใจเจ้าของบ้านอีกด้วย

ตู้เสื้อผ้า มีให้เลือกกี่แบบ?
สำหรับผู้ที่เคยเลือกซื้อ ตู้เสื้อผ้ามาก่อน หรือกำลังที่จะตกแต่งห้องนอน ตกแต่งบ้าน คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าตู้เสื้อผ้านั้นหลักๆ แล้วมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ ตู้เสื้อผ้าแบบบิวต์อินและตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว ซึ่งตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 แบบนี้ มีจุดประสงค์ในการใช้งานเหมือนกัน ในการเลือกอาจขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความชื่นชอบส่วนบุคคล
ตู้เสื้อบิวต์อิน เป็นตู้เสื้อผ้าที่มีการออกแบบและติดตั้งเป็นส่วนเดียวกันกับห้อง อาจมีราคาค่าออกแบบและค่าสั่งทำที่สูง
ตู้เสื้อผ้าลอยตัว เป็นตู้เสื้อผ้าอเนกประสงค์ที่สามารถย้ายหรือขยับเปลี่ยนพื้นที่ในการวางได้ ราคาไม่แพง

 

5 วิธีเลือกตู้เสื้อผ้า
แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่ไม่เคยเลือกซื้อตู้เสื้อผ้ามาก่อน หากได้ลองไปเดินเลือกซื้อตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ หรือเปิดเลือกผ่านทางเว็บไซต์ จะเกิดความลังเลมากทีเดียว เนื่องจากตู้เสื้อผ้าเองก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สี, ขนาด, ดีไซน์ และราคา หากคุณกำลังเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนอย่างตู้เสื้อผ้าอยู่ สามารถนำเอา 5 แนวทางวิธีการเลือกเหล่านี้ไปใช้ได้เลย

1. เลือกจากวัสดุ
ตู้เสื้อผ้านั้น มีให้เลือกด้วยกันหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก, เหล็ก รวมไปถึงไม้จริงและไม้สังเคราะห์ ซึ่งวัสดุที่นำเอามาทำเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มีผลต่ออายุการใช้งานด้วย แต่หากอยากเลือกตู้เสื้อผ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนานและมีดีไซน์ ลวดลาย และสีให้เลือกหลากหลาย เราขอแนะนำเป็น ตู้เสื้อผ้าไม้สังเคราะห์ ตอบโจทย์แน่นอน
2. เลือกจากขนาด
ขนาดของตู้เสื้อผ้าเองก็มีความสำคัญและสามารถนำเอามาประกอบตัดสินใจในการเลือกซื้อได้เช่นเดียวกัน หากจะเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าแนะนำว่าจะต้องวัดขนาดความกว้าง ความสูง และความลึก ของขนาดพื้นที่ที่จะนำเอาตู้เสื้อผ้าไปวาง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ
3. เลือกจากฟังก์ชัน
ฟังก์ชันภายในตู้เสื้อผ้าเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากหลายคนอาจไม่ได้ซื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อนำเอามาไว้แขวนแค่เสื้อหรือกางเกงเท่านั้น แต่บางคนอาจมี ชุดเดรส, เครื่องประดับ, กระเป๋า, ตู้เซฟ หรือของใช้อื่นๆ ที่ต้องการจะเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วย ดังนั้นควรมองหาตู้เสื้อผ้าที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตัวเองที่สุด
4. เลือกจากรูปแบบที่ชื่นชอบ
ในส่วนรูปแบบของตู้เสื้อผ้านั้น เราได้มีการกล่าวถึงไปแล้วว่าตู้เสื้อผ้า จะมีให้เลือกหลักๆ 2 แบบด้วยกัน คือ ตู้เสื้อผ้าแบบบิวต์อินและตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว ซึ่งในส่วนนี้สามารถเลือกตามรูปแบบที่ชื่นชอบและถูกใจได้เลย แต่อย่าลืมคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายในอนาคต
5. เลือกจากการรับประกัน
สำหรับผู้ที่กำลังจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ อย่างตู้เสื้อผ้าการมองหาสินค้าที่มีการรับประกัน ก็สามารถที่จะช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรเสีย ของปัญหาต่างๆ ที่อาจทำให้เสียเงินเพิ่มได้ อย่างเช่น มองหาตู้เสื้อผ้าที่มีการรับประกันเคลมสินค้าชำรุดเสียหายจากการขนย้าย เป็นต้น