นายกฯ เสริมศักยภาพส่งออกสินค้าปศุสัตว์ วางเป้าส่งเครื่องในเป็ดไปจีน 1 พันล้านบาทต่อปี
4 ก.พ. 2567, 15:04
วันนี้ ( 4 ก.พ.67 ) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่งเสริมศักยภาพการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทำให้ไทยสามารถส่งออกชิ้นส่วนจากสัตว์ปีกไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเภท ได้แก่ ชิ้นส่วนเครื่องในเป็ด 18 รายการ ตามข้อกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ โดยคาดการณ์เป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกไปยังประเทศจีน จากชิ้นส่วนเครื่องในเป็ดเพิ่มขึ้นถึง 1 พันล้านบาทต่อปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศจีนมีความเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยของสินค้าปศุสัตว์ไทย โดยจากการลงนามร่วมกัน ในความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไทยไปจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Custom of People ‘s Republic of China : GACC) เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 ได้ขยายผลเพิ่มเติมจากการลงนามในพิธีสารฉบับเดิม ที่ลงนามเมื่อปี 2561 ที่มีข้อกำหนดให้ประเทศไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกได้ 3 ประเภท ได้แก่ 1. เนื้อไก่ 2. เนื้อเป็ด และ 3. เครื่องในไก่
ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าว ได้ขยายผลให้ประเทศไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจำพวกเครื่องในเป็ดได้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นที่นิยมบริโภคในประเทศจีน โดยแบ่งเป็นชิ้นส่วนเครื่องในเป็ด 18 รายการ ได้แก่ 1.ตีนเป็ด 2.ข้อปีกเป็ด 3.ปีกกลางเป็ด 4.ปลายปีกเป็ด 5.ปีกบนเป็ด 6.ตับเป็ด 7.คอเป็ด 8.กึ๋นเป็ด 9.หัวใจเป็ด 10.ไตเป็ด 11.ลิ้นเป็ด 12.หัวเป็ด 13.ปากเป็ด 14.กระดูกเป็ด 15.กระดูกอ่อนเป็ด 16.เอ็นเป็ด 17.ไขมันเป็ด และ 18.หนังเป็ด ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นที่นิยมบริโภคในจีน จึงคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้มูลค่าส่งออกชิ้นส่วนและเครื่องในเป็ดเพิ่มเติมถึงกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สถิติในปี 2566 ประเทศไทยได้ส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังประเทศจีน รวมมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกประเภทเครื่องในไก่ มูลค่า 16,900 ล้านบาท สินค้าปศุสัตว์ประเภทกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง มูลค่า 1,200 ล้านบาท และกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ นม ไข่ น้ำผึ้ง รังนก มูลค่า 1,000 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมศักยภาพการผลิต และส่งออกสินค้าปศุสัตว์ให้ได้คุณภาพและตรงตามมาตรฐาน ด้วยมาตรการทางด้านการผลิตและปศุสัตว์ที่เข้มงวด ซึ่งเชื่อว่าจากการลงนามดังกล่าวเพิ่มเติม จะส่งผลเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตวปีกของประเทศไทยไปยังประเทศจีน และช่วยขยายตลาดส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทยไปยังต่างประเทศ สร้างโอกาสการลงทุนและการค้า ให้เกษตรกร และเพิ่มรายได้เข้าประเทศ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าผลของการลงนามความตกลงต่างๆผ่านการผลักดันของรัฐบาลนี้จะสำเร็จเห็นดอกผลอย่างต่อเนื่อง” นายชัย กล่าว .....