นักศึกษา วิศวะฯ ม.มหิดลกาญจนบุรี เผย! ผลกระทบการเผาขยะ ปัญหาจบ แต่ผลกระทบยาวนาน
5 ก.พ. 2567, 19:07
วันนี้ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กลุ่ม นักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ชั้นปีที่ 4 ได้แก่ นางสาวกุลวดี ชื่นใจ, นางสาวณัฐชยา โกลาเพ็ง, นายรพีพัทธ์ อมรศิริอาภรณ์, นายศุภวิชญ์ แจ่มประไพ และ นายภัทรพงศ์ อรุณวีระชัย ได้ทำการทดลองการเผาตัวอย่าง 4 ชนิด คือ
1.ใบไม้แห้ง
2.ชานอ้อย
3.ขยะทั่วไป
และ 4.ธูป โดยวิธีเก็บตัวอย่างอนุภาคควันในระยะเวลา 5 นาที และนำไปวิเคราะห์หาส่วนประกอบโลหะหนักโดยใช้เครื่อง X-ray fluorescence (XRF) spectroscopy ภายใต้คำแนะนำให้คำปรึกษา และควบคุมโดย ผศ. ดร. เอริกา พฤฒิกิตติ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ และนายเอกจักร์ จันทร์ดอน นักวิทยาศาสตร์ งานปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
พบว่า จากการทดลองการวิเคราะห์ธาตุของอนุภาคควันจากการเผา สรุปผลสำคัญดังนี้
• ธาตุซิลิกา (Si) พบได้ทั่วไปและหากได้รับปริมาณสะสมมากจะก่อให้เกิดโรคที่ปอด เรียกว่า Silicosis
• ธาตุนิกเกิล (Ni) ที่พบมากในฝุ่นจากเผาขยะและธูป มีความเป็นพิษต่ำ แต่หากได้รับปริมาณสะสมมากทำให้เกิดผื่นคัน อาการแสบตา อาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ
• ธาตุอะลูมิเนียม (Al) ที่พบจากการเผาใบไม้และใบอ้อย เป็นพิษต่ำแต่หากได้รับในปริมาณสะสมมาก จะทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ปวดศรีษะ ความจำเสื่อม
• ธาตุโครเมียม (Cr) พบเล็กน้อยในฝุ่นจากการเผาขยะ มีเป็นพิษต่อผิวหนังและทางเดินหายใจหากได้รับเป็นระยะเวลานานทำให้ระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุโพรงจมูก และเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งปอด
เห็นได้ว่าหากอยู่ใกล้พื้นที่ ที่มีการเผา ใบไม้ ธูป ขยะ และชานอ้อย เป็นเวลาสั้น ๆ 5 นาที อาจจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในทันที แต่หากได้รับสารพิษนั้นในปริมาณที่มากหรือเป็นประจำอาจส่งกระทบต่อสุขภาพเรื้อรังได้ ข้อแนะนำที่สำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงการเผา และตระหนักถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่นในระยะยาว ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรหาสถานที่เหมาะสม หรือเผาในพื้นที่โล่ง ห่างไกลชุมชน