กรมน้ำตัดลดงบขุดลอกบึงขามเปี้ยเหลือ 28 ล้าน
7 ก.พ. 2567, 19:40
ประธานคณะกรรมการตรวจรับงานฯ ขุดลอกบึงข้ามเปี้ยลงพื้นที่ เผยบรรจุงบประมาณ 28 ล้านบาท สานต่อโครงการให้แล้วเสร็จ ขณะผู้รับเหมายันกรมน้ำต้องจ่ายค่าจ้างอิงสัญญาหลัก 53 ล้านบาท ส่วนการที่เดินหน้าโครงการต่อนั้นผู้รับจ้างต้องได้รับเงินค่าจ้างงวดแรกเสียก่อน
สืบเนื่องจาก นายสุมาสิทธิ์ ศรีลำพัง เครือข่าวคุณธรรมอีสาน ได้พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการอนุรักฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า จะบึงกาฬ ให้ดำเนินคดีกับอธิบดิีกรมทรัพยาการน้ำ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด (07 ก.พ.67) นายสรศักดิ์ ใจประเสร็จ ผู้เชี่ยญชาญเฉพาะด้านระบบการอนุรักษ์น้ำ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง ในระหว่างเดินทางตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย ว่าในภาพรวมกรมฯก็อยากจะให้โครงการฯแล้วเสร็จเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน
กรมทรัพยากรน้ำต้องการให้โครงการนี้เดินไปได้ต่อ ซึ่งหลังจากตนได้เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการชุดปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านประสบปัญหาในเรื่องของขาดงบประมาณ เนื่องจากงบประมาณเดิมได้ตกพับไป แต่ขณะที่กรมฯได้งบประมาณ มาแล้วกว่า 28 ล้านบาท ซึ่งปัจจุอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 แล้ว พร้อมที่จะไปต่อ ซึ่งต้องถามว่าผู้รับจ้างพร้อมที่เดินทางไปต่อกับเราหรือไม่ ซึ่งหากว่าผู้รับเหมาพร้อม ก็มาทำงานแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน เนื่องจากว่าโครงการเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันปี 67 สัญญาเก่าก็มีการโดนแก้ไขปรับปรุงมาแล้วในอดีตซึ่งมีการแก้ไขตกลงกันไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร หากว่าทางห้างเกิดปัญหาขัดข้องใจ ไม่เป็นธรรมกับห้างฯอย่างไร ทางกรมก็สามารถทำการชี้แจงได้ โดยสามารถทำเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงคณะกรรมการฯได้
ด้านผู้ว่าจ้าง ได้ออกมายืนยันว่า สัญญาจ้างฉบับเดิมหรือฉบับหลัก กับสัญญาที่นำมาให้เซ็นต์ใหม่นั้น ในแบบไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย มีเปลี่ยนแปลงก็แต่ ลดค่าขุดขนจำนวน 6 แสนคิว และหักเงินที่บริเวณแบบที่ ประชาชนได้ร้องเรียนมาเท่านั้น เป็นการประวิงเวลาเพื่อต้องการให้เงินตกพับเท่านั้น แต่การที่เปลี่ยนสัญญาหรือเปลี่ยน จะต้องอิงจากสัญญาหลักของวิศวกรรม และมูลค่าของโครงการจะต้องเป็นจำนวนเงิน 53 ล้านบาทเท่าเดิม
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการผู้ตรวจรับงานจ้าง ได้บอกให้ผู้รับจ้างแจ้งปัญหาอุปสรรคในการทำงานให้แล้วเสร็จ โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่างควบคุมงาน เพื่อที่จะนำเข้าไปพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการตรวจรับงาน ก่อนแจ้งผู้รับจ้างทราบต่อไป
ส่วนปัญหาที่ผู้รับจ้างได้รับผลกระทบ ในเรื่องของ การถูกหักค่าขุด ค่าขน จำนวน 6 แสนคิว รวมมูลค่าประมาณ 14.9 ล้านบาท รวมไปถึงเรื่องของานขุดถมคันดิน ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า ผู้รับจ้างได้ทำตามสัญญาจ้างตามแบบที่ทางกรมทรัพยาน้ำได้ว่างต้งแต่ปี 2559 จนแล้วเสร็จ ต่อมาได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนว่าได้ถมดินบุกรุกที่ดินของชาว ซึ่งผู้รับเหมาได้ทำตามแบบที่ผู้ว่าจ้างได้ส่งมอบพื้นที่ผู้รับจ้างทำไปได้ประมาณ 1 กม. แต่หลังจากที่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ว่าจ้างได้หักค่างาน ผู้รับจ้างไป จำนวน 2 ล้านบาท รวมผู้รับจ้างถูกหักไปเงินเป็นจำนวน 16.9 ล้านบาท
ซึ่งจากนี้ไป ผู้รับเหมาจะยัง ไม่เข้าไปดำเนินการโครงการ โดยจะรอจนกว่าจะได้รับค่าจ้างงวดแรกเสียก่อน หรือไม่ก็รอคำสั่งของกรมทรัพยากรน้ำ ว่าจะมีคำสั่งให้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อได้อีกเมื่อไหร่
ด้านนายสำเร็จ พระมงคล อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 5 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ได้เดินทางมาร้องเรียน และเรียกร้องให้ผู้รับเหมาขุดดินบริเวณที่เป็นปัญหา น้ำที่กว่า 30 ไร่ ให้เป็นไปตามเดิม เนื่องจากบริเวณที่ผู้รับเหมาได้ขุดดินมาถมเป็นคันดินกว้าง 6 เมตร ตลอดระยะทางกว่า 1 กม.เป็นที่ทำกินของตน โดยนำเอกสารสิทธิ์การทำประโยชน์ที่ดินบริเวณดังกล่าวมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งทางคณะตรวจรับงานและผู้รับเหมารับทราบและตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างที่พนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รวบรวมพยานหลักฐานภายในกรอบเวลา 30 วัน ก่อนส่งให้ ปปช.จังหวัด พริจารณาไตร่สวนข้อเท็จจริงต่อไป