วันนี้ ( 8 ก.พ.67 ) เวลา 11.45 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจากรณีปัญหายาเสพติดซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก ดังนี้ 

นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนและสมาชิกสภาฯ ประจักษ์ถึงปัญหาดังกล่าวเช่นกัน โดยกล่าวถึงตัวเลขเกี่ยวกับการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ตั้งแต่ 4 เดือนปลายปีที่แล้ว สามารถจับผู้ค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 40% เป็นจำนวน 32,000 เคส ยาบ้า ก็จับได้มากกว่าปีก่อนหน้า 2 เท่า กว่า 250 ล้านเม็ดในช่วงเดียวกัน โดยเน้นจับรายใหญ่ ไม่ให้ไปกระจายต่อได้ โดยรายใหญ่ ที่ขาย 500,000 เม็ดขึ้นไป ก็จับได้กว่า 62 เคส ยึดทรัพย์มาแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหากดูในแง่ดีก็ดี อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะจับได้มากขนาดไหนตามตัวเลขที่ได้รับรายงานมาก็ยังไม่เป็นเรื่องที่น่าสบายใจ เพราะยาบ้าก็ไม่ได้ขึ้นราคาทั้งที่จับได้จำนวนมาก และ supply ถูกตัดไปมากแต่ราคายาบ้าก็ยังไม่ขึ้น เพราะฉะนั้นการบ้านของรัฐบาลก็ยังมีอีกมากพอสมควร ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ารากเหง้าของปัญหายาเสพติดนั้นมาจากปัญหาเศรษฐกิจ การที่ประชาชนต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ รายจ่ายสูงขณะที่รายได้น้อยก็อาจจะทำให้เกิดความหมดหวัง ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาในประเด็นอื่นด้วย เช่น กรณีที่สังคมมีประเด็นสงสัยเกี่ยวกับการใช้เวลานานในการทำลายยาเสพติดที่จับมาได้นั้น ย้ำว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญสูงและมีนโยบายชัดเจนในการที่จะจับพิสูจน์ทราบให้ได้ และมีการเก็บตัวอย่างไว้เพียงเล็กน้อย และที่เหลือให้มีการทำลายล้างโดยเร็ว เพื่อตัดปัญหาที่สังคมมีข้อสงสัยว่าอาจจะมีการรั่วไหล 

ส่วนกรณีที่สมาชิกสภาฯ กล่าวถึงน้ำกระท่อมว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่และเริ่มแพร่กระจายไปในสังคมอย่างรวดเร็วนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากที่ได้ไปพบและพูดคุยกับ สส.จังหวัดอุบลราชธานีมา และได้ชี้แจงว่ามีการจำหน่ายน้ำกระท่อมตามสี่แยกต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ซึ่งภายหลังได้รับทราบเรื่องดังกล่าวในวันนั้นก็ได้โทรเรียกผู้บัญชาการประจำประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ไปสั่งการผู้การจังหวัดให้มีการกวาดล้างโดยเร็ว ลงพื้นที่ควบคู่ไปกับการปกครอง และ สส.ของจังหวัดด้วย ซึ่งสามารถกำจัดได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ และพยายามให้ขยายไปดำเนินการในจังหวัดต่าง ๆ ด้วย โดยหากสมาชิกสภาฯ พบปัญหาดังกล่าวในพื้นที่ของตนก็ขอให้แจ้งมาได้เพื่อที่เราจะได้เข้าไปดำเนินการอย่างทันควัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหายาเสพติดความจริงอาจต้องโยงไปถึงปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยต้องยอมรับว่าประเทศที่มีปัญหาภายในเยอะมากคือประเทศเมียนมา ซึ่งไทยมีชายแดนติดกับเมียนมาประมาณ 2,500 กิโลเมตร โดยประเทศไทยได้รับมอบหมายจากอาเซียนให้เป็นประเทศที่ต้องมีการเจรจากับฝ่ายเมียนมา ซึ่งเป็นที่น่ายินดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมหาอำนาจสองประเทศ ได้ส่งผู้นำระดับสูงมาเจรจากันและพูดกันในหลายปัญหา โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการเจรจาและอธิบายว่าปัญหาภายในที่เกิดขึ้นของเมียนมาได้ส่งผลมาถึงไทย เช่น ปัญหายาเสพติดซึ่งปัจจุบันทะลักเข้ามาในไทยตามแนวชายแดนจำนวนมาก โดยต้องขอบคุณทางกองทัพไทยที่มีการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง สส.ในพื้นที่ และกองทัพบกโดยแม่ทัพภาคที่ 3 ได้มีการสกัดตามแนวชายแดนและจับได้เยอะมาก ซึ่งเราก็ได้มีการอธิบายและชี้แจงให้กับประเทศมหาอำนาจทั้งสองประเทศได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและส่งผลมาถึงไทย ซึ่งทั้งสองประเทศก็เข้าใจและรับไปปฏิบัติ โดยเราเองก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตยังต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการสกัดการเข้ามาของยาเสพติดที่เข้ามาตามชายแดน ปัจจุบันทางภาคเหนือทำได้ดีแล้ว แต่ก็จะไปเกิดตรงภาคกลาง เช่น จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องดำเนินการสู้กันต่อไป รวมไปถึงการดำเนินโครงการบำบัด “คืนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย” เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีอาชีพที่ดี และคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยรัฐบาลนี้จะทำอย่างต่อเนื่องต่อไป