ต่อมาวันนี้นายประสิทธิ์ จัทร์มณี กำนัน ต.กุแหระ นำตัวนายไกรศร บุญมา หรือ บิลลี่ ผู้ต้องหา เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนให้การอ้างว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุนายทวีศักดิ์ ชูขันธ์ อายุ 39 ปี อาชีพทำสวนยาง อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 1 กค 4394 นครศรีธรรมราช โดยตนนั่งซ้อนท้าย ระหว่าทางตนทวงเงินกับผู้บาดเจ็บ เรื่องนำรถจักรยานยนต์ของพ่อไปจำนำ ทำให้พ่อของถูกบริษัทสินเชื่อรถจักรยานยนต์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหลายบาท แต่ผู้บาดเจ็บกลับปฏิเสธที่จะคืนเงิน จึงเกิดโต้เถียงกันตลอดทาง ถึงที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บใช้มือซ้ายชักมีดเหวี่ยงหวังแทงตน จังหวะนั้นตนหลบทันและคว้ามือผู้บาดเจ็บไว้ได้ แล้วชักอาวุธมีดกริชยาว 5 นิ้ว ที่เหน็บเอวแทงสวนที่ท้ายทอยผู้บาดเจ็บจนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มบนถนน จากนั้นตนลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าในป่ายางและหลบซ่อนตัวในขนำ 1 คืน สุดท้ายทนความหิวไม่ไหว พอรุ่งเช้าจึงตัดสินใจเดินกลับบ้านและติดต่อกำนันให้นำตนเข้ามอบตัวกับตำรวจ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง นำส่งโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ และแพทย์ส่งรักษาต่อโรงพยาบาลทุ่งสง เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส

 

 

นอกจากนี้ผู้ต้องหา ยังเปิดเผยอีกว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ไม่เคยทำร้ายใคร ส่วนอาวุธมีดกริช จะพกติดตัวเพื่อไว้ป้องกันตัวตลอดเวลา ซึ่งอาวุธมีดกรีชเป็นสมบัติของคุณปู่ ที่มอบให้ตนเมื่อประมาณ 10 ปี ที่ผ่านมา และตนไมเคยชักอาวุธมีดกริชออกจากคมฝักเลย กระทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนชักอาวุธมีดกริชออกจากคมฝักครั้งแรก และอาวุธมีดกริชได้ลิ่มรสเลือดเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามถ้าตนไม่ใช้อาวุธมีดกริชแทงสวนไป ตนก็จะถูกคผู้บาดเจ็บใช้อาวุธมีดแทงตนบาดเจ็บหรือไม่ก็ตายไปแล้ว