วันที่ 12 ก.พ.67 นางสาวกานดา ศิลา อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ร้องขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าว่า ตนมีลูก 4 คน วัยกำลังกินกำลังนอน และหนึ่งในนั้นมี “ น้องเก้า “ เด็กชายอนุชิต อายุ 8 ขวบ ป่วยพิการติดเตียงมานาน 7 ปี ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ส่วนสามีทำงานก่อสร้างรายได้วันละ 300 - 400 บาท แล้วแต่จะได้รับการว่าจ้าง หากวันใดไม่มีงานก่อสร้างจะช่วยตนทำข้าวกล่องเร่ขายตามตลาดนัด ตามโรงเรียน ได้รายได้วันละ 400 – 500 บาท รายได้แต่ละเดือนกับค่าเช่าบ้าน ครอบครัวก็พออยู่ได้

นางสาวกานดา เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้รับความเมตตาจากคนใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลน้องเก้า  2 ครั้ง ยอดรวมเกือบ 2 แสนบาท แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด  - 19 ทำให้ครอบครัวไม่มีรายได้ สามีไม่มีงานทำ จึงนำเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคเป็นค่ารักษาน้องเก้า มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมทั้งเป็นค่ารักษาน้องเก้า ทำให้เงินเริ่มน้อยลง สุดท้ายตนต้องไปกู้เงินนอกระบบจำนวน 3 หมื่นบาท ทำให้ทุกวันนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เงินขายของที่หาได้แต่ละวันต้องนำไปจ่ายดอกเบี้ย ประกอบกับน้องเก้า ต้องรักษาอาการป่วยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลท่าแพ หยิบยื่นความช่วยเหลือค่าเดินทาง ค่าแพมเพิสให้กับน้องเก้า เป็นการแบ่งเบาภาระ 

“ ยอมรับผิดว่า 2 ครั้ง ที่คนใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาอาการป่วยของน้องเก้า เกือบ 2 แสน จนทุกวันนี้ไม่เหลือแม้แต่น้อย เป็นความผิดของตนเอง ที่ไม่รู้จักวางแผนการใช้เงิน ตอนนี้ครอบครัวตนเดือดร้อนมาก ตนกราบวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวตนอีกครั้ง ผ่านธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนางสาวกานดา ศิลา เพื่อเด็กชายอนุชิต อาวุธ เลขบัญชี 9860608156 หรือโทรศัพท์เพิ่มเติมเบอร์ 093 – 6475623 หลังจากนี้ตนจะวางแผนใช้จ่ายเงินอย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้ครอบครัวเดือนร้อน และจะไม่ขอรบกวนขอผู้ใจบุญอีก “ นางสาวกานดา กล่าวร่ำไห้ทิ้งท้าย