เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 ก.พ.67 พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนคลุ้มคลั่งอาละวาดที่บ้านหลังหนึ่ง ท้องที่หมู่ 2 ต.ปากนคร อ.เมือง จึงสั่งการ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.และ พ.ต.ต.มนัส พิทักษ์บูรพา สวป.นำกำลังตำรวจสายตรวจรถยนต์ 191,สายตรวจรถจักรยานยนต์ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.และเจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบ เดินทางไปตรวจสอบ เพื่อระงับเหตุ

เมื่อถึงบ้านเกิดเหตุพบนางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี แม่คนก่อเหตุ ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า คนคลุ้มคลั่งชื่อนายพงศ์ อายุ 29 ปี เป็นลูกของตนเอง ซึ่งอยู่ภายในบ้านกับลูกและภรรยา กำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเหล็กง่ามจึงเข้าปิดล้อมบ้าน ระหว่างนั้นนายพงศ์ คนก่อเหตุ เดินอุ้มลูกชายวัย 4 เดือน ออกจากบ้าน พร้อมกับร้องร่ำไห้พูดกับตำรวจว่า ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง แต่ที่เสพยาบ้า เพราะต้องการประชดแม่ เนื่องจากแม่ไม่รัก ไม่สนับสนุนอาชีพทำมาหากิน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ปราบปราม ประเมินสถานการณ์แล้ว พบว่าคนก่อเหตุยังมีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อยประกอบกับมีอาการน้อยอกน้อยใจ จึงต้องใช้ความละมุนละม่อมในการเจรจา เพราะหากใช้กำลังบุกจับอาจมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับเด็กน้อยวัย 4 เดือน แต่ก็มั่นใจว่านายพงศ์ ไม่ทำร้ายลูกวัย 4 เดือนของตนเองอย่างแน่นอน จากนั้นทาง พ.ต.ท.ธีระพล ใช้หลักจิตวิทยาพยายามเกลี่ยกล่อมนายพงศ์ เพื่อให้ลดความตึงเครียด ผ่อนคลายสถานการณ์ พร้อมกับรับฟังปัญหาของนายพงศ์ อยู่นาน 30 นาที กระทั้งนายพงศ์ เริ่มมีท่าทีอ่อนลง และส่งลูกน้อยวัย 4 เดือน ให้กับทาง พ.ต.ท.ธีระพล

ก่อนที่นายพงศ์ พูดระบายความอัดอั้นในใจให้กับตำรวจฟังว่า ตนเลิกยาเสพติดได้แล้ว แต่วันนี้ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง เพราะต้องการประชดแม่ ที่ไม่รัก ไม่สนับสนุนอาชีพทำมาหากิน ประกอบกับถูกแม่ดุด่าบ่อย จึงอาละวาด แต่ไม่ได้ทำร้ายแม่ ไม่ได้ทำร้ายเมีย และไม่ได้ลูกวัย 4 เดือน นอกจากนี้นายพงศ์ ยินยอมเข้าโครงการชุมชนบำบัดยาเสพติดอย่างยั่งยืนที่ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินการจัด ที่ ต.นาทราย อ.เมือง เป็นโครงการฯ สร้างอาชีพ ส่งเสริมกีฬา และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดให้กับผู้เข้าโครงการทุกสัปดาห์ โดยปัจจุบันมีผู้เข้ารับการบำบัดตามโครงการฯแล้วจำนวน 200 ราย