ฟังอีกมุม เมียหนีจากผัว 5 วัน จนผัวน้อยใจกุเรื่องลูกชายวัย 4 ขวบ อ้วกเป็นเลือด ที่แท้เทสีผสมอาหารสีแดงทาจมูกและปากลูกชาย หวังเรียกร้องความสนใจให้เมียกลับคืนมา วันนี้เมียเปิดใจน้ำตาคลอและท้อใจ อยากจะบอก คบกับสามีคนนี้ 13 ปีไม่มีความหมาย เหตุผลมันมีและสะสมมานาน ฟางเส้นสุดท้ายขาดแล้ว จากนี้ไม่ขอคืนดีอดีตสามี แม่ยายเดือดลูกเขยจะมาขอขมาก็ไม่รับ ลูกเขยคนนี้ทนมานานแล้ว สงสารแต่หลานชายหากเลี้ยงไม่ไหวบอกมาจะไปรับมาเลี้ยงเอง

วันนี้ (13 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี นายสุภาพ ทิพย์พรม อายุ 37 ปี ชาว อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เทสีผสมอาหารสีแดงไปทาจมูกและปากของลูกชายวัย 4 ขวบ และถ่ายรูปตอนลูกชายอ้วกไปให้ภรรยาดู อ้างลูกชายป่วยหนักจนอ้วกเป็นเลือด สาเหตุที่ทำแบบนี้หวังจะเรียกร้องความสนใจกับภรรยา กลับคืนมาหาลูกและสามี หลังหนีไป 5 วัน แต่สุดท้ายภรรยาแจ้ง 1669 ตร.เข้าไปดู เจ้าตัวบอกลูกชายไม่ได้อ้วกเป็นเลือด สบายดีทุกอย่าง เหตุที่ทำแบบนี้แค่อยากจะเรียกร้องความสนใจจากภรรยาให้กลับคืนมาเท่านั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตร.และกู้ชีพก็ตักเตือนบอกว่า อย่าทำแบบนี้อีก เพราะงานของเจ้าหน้าที่ฯ ก็เยอะ พร้อมจะช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยจริงๆ ทำแบบนี้ไม่ดี เจ้าตัวก็ยกมือไหว้ขอโทษบอกว่า ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว หวังภรรยาจะกลับคืนมาหลับหนีออกจากบ้านไป 5 วัน  และเร็วๆ นี้หนุ่มรายนี้จะถือขันธ์ห้าไปขอขมาพ่อตาและแม่ยายและไปกราบเท้างามภรรยาขอโทษที่กุเรื่องแบบนี้

ล่าสุดเย็นวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน.ส.จริยา หรือน้องบุ๋ม อายุ 37 ปีภรรยาของนายสุภาพ เปิดใจกับผุ้สื่อข่าวแบบท้อใจ บอกว่า พี่ค่ะ หนูยอมรับที่ผ่านมา ชีวิตครอบครัวท้อใจมาก คบกับสามีคนนี้ 13 ปีไม่มีอะไรดีขึ้นเลยทั้งที่ให้โอกาสเขา อยากให้เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี หนูก็ทนมาตลอดืส่วนปัญหามันสะสมมานานจนถึงขั้นแตกหักฟางเส้นสุดท้าย มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นหญิงอายุ 6 ขวบ คนที่ 2 น้องบูโน่ คนที่ 3 ตอนนี้อยู่ในท้องอีก 2 เดือน หนูอดทนมาแล้ว 13 ปีแต่ตอนนี้ไม่ทนแล้วเพราะฟางเส้นสุดท้ายมันขาดไปแล้วมันหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ขอไปคืนดีกับอดีตสามีคนนี้ ส่วนที่เขาจะมาขอขมา บอกเลยไม่ต้องมา พ่อและแม่รับรู้เรื่องราวตลอดเวลา 13 ปี คงไม่ให้อภัย ทางใครทางมันดีกว่า  ก่อนหนูจะหนีออกมา ลูกชายคือน้องบูโน่ไม่สบายจริงๆ เป็นไข้ เขาก็ถ่ายรูปมาให้ดูตอนลูกชายนอน ที่จมูกมีสีแดงคล้ายเลือด ถ่ายในโถส้วมบอกว่า ลูกอ้วกเป็นเลือดอีก หัวอกแม่ก็ห่วงลูก หนูก็บอกเขาไปว่า จะให้ไปรับลูกชายไปหาหมอไหม เขาก็บอกว่าไม่ต้อง จะดูลูกเอง หากลูกตายก็จะตายพร้อมกัน หนูเป็นคนโทรหา 1669 เองว่าให้ไปรับลูก  เพราะตอนแรกคิดว่าลูกอ้วกเป็นลูกจริงๆ พอมารู้ว่าเขาเอาสีผสมอาหารสีแดงเทเพื่อกุเรื่องให้หนูไปกลับคืนดี บอกตรงๆ ไม่ไปหาเขาอีกแล้ว 

ที่ผ่านมามันหลายครั้ง เขาหาเรื่องทะเลาะกับหนู หนูก็ทน ทำร้ายเราอีก เราก็ทน สงสารแต่ลูก ลูกสาวคนโต 6 ขวบ เวลาเขาเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเขาต้องเบือนหน้าหนี เอามือปิดหูเอาไว้ เราก็สงสารลูก เหมือนการแบ่งลูกันให้น้องบูโน่กับเขา ส่วนหนูก็เอาลูกสาวคนโตและลูกในท้องอีกคน หากอดีตสามีเลี้ยงน้องบูโน่ไม่ไหวเอามาให้ตนเองเลี้ยงก็ได้ แต่จะให้ไปคืนกับเขาหนูไม่ไปแน่นอน อดีตภรรยากล่าวตอนท้าย

ขณะที่นางพรสุดา แม่ยายนายสุภาพ บอกว่า เรื่องราวของลูกสาวและลูกเขยตนเองรับรู้มาตลอด 13 ปีที่เขาได้กันเราอยากให้เขามีครอบครัวที่มีอนาคต แต่ลูกเขยเป็นแบบนี้ไม่เอาแล้ว เขาโกหกเก่ง ตอนแรกแม่และพ่อไปทำงานได้เงินมาเท่าไหร่ยื่นให้ลูกเขยให้มากกว่าลูกสาว แต่พอไม่พอใจอารมณ์ร้อนเขาก็พาลูกสาวแม่หนี เขาจะมาขอขมาก็ไม่ต้องมา ไม่เอาอีกแล้วไม่รับขอขมา ต่างคนต่างไป ส่วนน้องบูโน่หลานชายถ้าเขาเลี้ยงไม่ไหวเอามายายจะเลี้ยงเอง บอกตรงๆ ลูกเขยคนนี้ไม่มีอะไรมาเลย ส่วนลูกสาวแม่ส่งเรียนจบ.ป.ตรี แต่ไม่รู้ไงดันมาได้ลูกเขยแบบนี้ แม่ยายกล่าวด้วยความท้อใจลูกเขยไม่เป็นการเป็นงาน