จากกรณี นาย เอ.(นามสมมุติ) อายุ 26 ปี และ ภรรยา อายุ 24 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมด้วย นายฮานาฟี หมีนเส็น ทนายความ นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เพื่อขอความเป็นธรรม อ้างว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล บกพร่องทำทารกอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ หรือราว 9 เดือน เสียชีวิตทั้งที่ยังอยู่ในครรภ์

นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุข จ.สงขลา เปิดเผยว่า สสจ.ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อดูแลเยียวยาจิตใจผู้ป่วยและครอบครัว เนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์แรก และสูญเสียทารกไปตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จากการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้มีการประชุมร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อหารือถึงข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น และดำเนินการทางวินัยหากตรวจพบความบกพร่อง ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ผลเร็ว ๆ นี้

"โดยต้องมีการดูแลใน 3 ส่วนไปด้วยกัน คือ พ่อแม่เด็กและญาติ ระบบงาน และ มาตรฐานโรงพยาบาล ซึ่งได้สั่งการลงไปแล้ว และที่สำคัญต้องขอแสดงความเสียกับพ่อแม่เด็กและญาติถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นท้องแรก โดยเฉพาะพ่อแม่เด็กและญาติใกล้ชิดต้องดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากอาจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลา จะลงไปดำเนินกานในส่วน ให้คำแนะนำหากสภาพจิตใจและร่างกายดีขึ้นหรือหายเป็นปกติ เพื่อให้มีความพร้อมหากจะต้องมีท้องในครั้งต่อไป"

กลุ่มงานประกัน และทีมงานของ สปสช. ได้ลงพื้นที่ เพื่อแสดงความเสียใจ รวมทั้งทำความเข้าใจ และให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวตามมาตรา 41 ซึ่งเป็นการเยียวยาโดยไม่พิสูจน์ถูกผิด ได้รวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมพิจารณา ขณะที่ในส่วนของระบบงาน หรือระบบการดูแลนั้น ได้ให้ทางโรงพยาบาลจะนะ ทำรายงานเบื้องต้นมายังสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา แล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ทางผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมประชุมกันที่โรงพยาบาลสงขลา เพื่อหาแนวทางที่จะไม่เห็นเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะเคสคนท้องหากต้องเข้ามาตรวจเช็คในช่วงดึกอาจจะจะต้องให้นอนพักสังเกตอาการให้แน่ใจเสียก่อนกระทั่งเข้าสู่เวรปกติช่วงเช้า พร้อมกับสั่งการไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ในสังกัดด้วยเช่นเดียวกัน