วันนี้ (19 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนาย หนุ่มเม อายุ 38 ปี ชาวบ้านดอนม่วง ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี หนุ่มมีอาชีพเก็บขยะขาย ไปพบรักกับสาวเร่รอนชื่อน้องกิ๊ก อายุ 36 ปี ชาวอ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ โดยพบกันที่ศาลาริมทางถนนสายอ.กุมภวาปี-อุดรธานี จากนั้นพูดคุยถูกคอกันจนปิ๊งกันนายเมชวนคุยซื้อเหล้ามาฉลองความรักริมศาลา จากนั้นพากันไปต่อที่รีสอร์ท บ่ายเมื่อวานนายเมก็พาน.ส.กิ๊กออกจากรีสอร์ท บอกว่าจะพาไปต่อที่ตัวเมืองอุดรธานี ไปนั่งกินหมูกระทะ แต่พอมาได้ถึงครึ่งทางบริเวณปั๊มน้ำมันคอสโม ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายเมก็จอดรถ บอกกับน.ส.กิ๊กว่าเธอขโมยเงินฉันในกระเป๋าเสื้อหรือเปล่า เงินประมาณหมื่นบาท น.ส.กิ๊กก็ยืนยันฉันไม่ได้ขโมยและพยายามวิ่งหนีนายเม  โดยวิ่งข้ามไปมาถนนสี่เลน ขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี นายเมก็วิ่งตาม

จนมีคนขับรถสัญจรไปมาบนถนนมิตรภาพได้แจ้งศูนย์วิทยุ 191 จ.อุดรธานีว่า พบหญิงสาววิ่งเหมือนหนีผู้ชาย คล้ายผัวเมียทะเลาะกัน ให้ตร.ไประงับเหตุด้วยกลัวเกิดอันตราย แต่เนื่องจากเป็นรอยต่อ 3 อำเภอคืออ.กุมภวาปี,อ.เมือง และอ.ประจักษ์ศิลปาคม ตร.สายตรวจ 3 โรงพักต้องไประงับเหตุทันที เมื่อไปถึงพบว่า เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวคู่หนึ่งมีปัญหาเรื่องเงินหมื่น ตร.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบจึงเชิญตัวทั้งสองคนมายังโรงพัก

นายเม ก็ยังยืนยันว่า สาวคนนี้ผมพบริมศาลาขณะขับรถบิ๊กไบค์ไปจอดพัก เจอสาวนั่งเล่นจึงพูดคุยด้วย คุยไปคุยมาถูกคอกัน ผุ้หญิงเขาชวนให้ผมซื้อเหล้ามากินกัน พอดื่มได้ที่ ก็ชวนสาวไปนอนที่รีสอร์ท ตกบ่ายผมจะพาเขาเข้าไปกินหมูกระทะในเมือง หวังจะสานต่อความรักให้ดูดดื่ม แต่พอมาถึงกลางทางปรากฎว่าเงินหมื่นกว่าบาทในกระเป๋าเสื้อผมหาย ก็ถามน.ส.กิ๊ก แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ จึงเกิดวิ่งไล่กันกลางถนน

ขณะที่น.ส.กิ๊กก็บอกว่า ฉันไม่ได้เอาเงินผู้ชายคนนี้ไป และไม่เคยรู้จักไม่เคยไปร่วมหลับนอนด้วย เขาจะมาโบ๊ยว่าเอาเงินเขาเพื่ออะไร มาพูดแบบนี้ทำให้ฉันเสียหายจะแจ้งความปรับ 500 ล้านบาท ยังไงก็ไม่ยอม หาว่าฉันใจง่ายไปนอนด้วย แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยผู้ชายเก็บขยะ

ขณะที่ พ.ต.ท.นิรันดร์ ปัสสาโท สว.(สอบสวน) สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ก็เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่าย เพราะดูแล้วต่างคนต่างไม่ยอมกัน ฝ่ายชายอ้างผู้หญิงฉกเงินในกระเป๋า ฝ่ายหญิงบอกว่าเงินในกระปุกเป็นเงินฉันเองที่หยอดเอาไว้ ดูท่าจำนวนเงินทั้งสองคนพูดไม่ตรงกัน ฝ่ายชายบอกว่าเงินหมื่นกว่าบาท ฝ่ายหญิงบอกว่าเงินในกระปุกออมสินเหล็กมีประมาณ 6000-7000 บาท ตร.จึงให้ช่างมาตัดกระปุกออมสินของสาวคนนี้ ตรวจเงินก็พบจำนวน 6,004 บาท น.ส.กิ๊กก็ยังยืนยันเป็นเงินของตนเอง สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ ตร.จะได้พูดคุยอีกวันนี้

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สภ.ประจักษ์ศิลปาคม อีกครั้ง โดย พ.ต.ท.นิรันดร์ ปัสสาโท สว.(สอบสวน) สภ.ประจักษ์ศิลปาคม แจ้งว่า เมื่อวานตอนค่ำ หญิงและชายดังกล่าวยังตกลงกันไม่ได้เรื่องเงินหมื่น ฝ่ายชายก็อ้างว่ารู้จักผู้หญิงริมศาลา เกิดปิ๊งกันแล้วพากันไปร่วมหลับนอน ตอนจะพาไปกินหมูกระทำ ผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายดันฉกเงินในกระเป๋าเสื้อ แต่ฝ่ายหญิงเสียงแข็งบอกไม่รู้จัก ไม่ได้ฉกเงิน และเงินในกระปุกออมสินเป็นเงินของเขา สุดท้ายตกลงกันได้ คือฝ่ายชายไม่เอาเรื่องฝ่ายหญิงให้จบๆ กันไป ส่วนเงินทั้งหมด 6004 บาทตร.ได้คืนให้กับน.ส.กิ๊ก และน.ส.กิ๊กมีอาการบาดเจ็บจากการวิ่งหกล้มข้ามถนน ตร.ก็ได้พาไปรักษาที่รพ.และจ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วตร.ก็ได้ให้เงินคืนน.ส.กิ๊กไปทั้งหมด โดยฝ่ายชายไม่ติดใจเอาความ แต่ตอนท้ายนายเมก็ยังยืนยันว่ารู้จักสาวคนนี้จริง ขอเงินค่าตัวพันสองพันได้ไหม แต่ผู้หญิงก็ยังยืนยันคำว่า ไม่รู้จักและไม่เคยไปหลับนอนด้วย ตร.ก็เจราเกลี่ยไกล่ให้ ตร.สายตรวจก็ไปส่งน.ส.กิ๊กที่บขส.กุมภวาปี โดยเจ้าตัวจะขึ้นรถทัวร์ไปหาพ่อทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนฝ่ายชายก็ขับรถบิ๊กไบค์กลับบ้านที่อ.โนนสะอาดเรียบร้อยแล้วสุดท้ายต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกัน ไปใครมัน ก็จบด้วยดีเรื่องราวของมนต์รักริมศาลา