วันที่  21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ  18.00   น.สถานที่จับกุม  บริเวณ กม.9-10 ทล.32 ถนนสายเอเซีย ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาบันทึกนี้จัดทำขึ้นไว้เพื่อแสดงว่าภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.๑ บก.ทล.,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.มีบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เลขประจำตัว 620004 ,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.ได้ทำการจับกุมนายสมคิด ทองเสือ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 32/2 หมู่ที่ 3 ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยของกลางมี 1.รถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MITSUBISHI MIRAGR สีฟ้า ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กน-5928 พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คัน 2.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) ชนิดกลมแบนมีอักษร WY ที่ด้านข้างอีกด้านหนึ่งผิวเรียบติดอยู่กับชุดอุปกรณ์การเสพ และวางอยู่ที่ช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายมือของผู้ขับขี่ จำนวน 1 เม็ด3.ชุดอุปกรณ์การเสพจำนวน 1 ชุด 4.ใบตรวจสารเสพติด ของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 ฉบับ

โดยกล่าวหาว่า 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต ๒.เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ๓.เป็นผู้ขับรถฯ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย 4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 5.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ

 สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.๑บก.ทล.จึงได้สั่งการให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ(พระนครศรีอยุธยา,ปทุมธานี,นนทบุรี) จนกระทั่งวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) เวลาประมาณ 17.40 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ กม.6-7 ทล.32 ถนนสายเอเซีย ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยรถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MITSUBISHI MIRAGR สีฟ้า ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กน-5928 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ที่ริมทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมาและได้เห็นสัญญาณไฟรวมถึงเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถจึงได้ขับหลบหนีด้วยการเพิ่มความเร็ว

โดยขับหลบหนีไปตามถนนหลวง ทล.32 ในขณะที่มีรถยนต์ของประชาชนผู้สัญจรไป-มาจำนวนมาก รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับขี่หลบหนีด้วยความเร็วแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นมีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันเป็นการขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายและตื่นตระหนกตกใจขึ้นในที่สาธารณะรวมถึงอาจทำให้สุจริตชนได้รับอันตรายจากการกระทำของตน โดยระหว่างทางได้ขับขี่รถยนต์คันของตนเฉี่ยวชนรถยนต์ตรวจการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับความเสียหายและขับชนหรือเบียดรถตำรวจโดยไม่เกรงกลัวว่าจะก่อให้เกิดอันตรายทางกายและทางใจ โดยระหว่างทาง รถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MITSUBISHI MIRAGR สีฟ้า ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กน-5928 พระนครศรีอยุธยา ขับขี่ด้วยความเร็วและเกินเสียหลักด้วยตัวเองและเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำได้รับความเสียหายต่อตัวรถ จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.9-10 ทล.32 ถนนสายเอเซีย ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางหลบหนีประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและช่วยเหลือผู้ที่อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเป็นชายไทย ไม่ได้รับบาดเจ็บแก่ร่างกายแต่อย่างใดและขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว

จึงเริ่มทำการตรวจสอบพบ นายสมคิด ทองเสือ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 32/2 หมู่ที่ 3 ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี (ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง) แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นคนท่าทางมีพิรุธต้องสงสัยเป็นบุคคลเสพยาเสพติดจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนที่พอใจจึงเริ่มทำการตรวจค้น ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) ชนิดกลมแบนมีอักษร WY ที่ด้านข้างอีกด้านหนึ่งผิวเรียบติดอยู่กับชุดอุปกรณ์การเสพ และวางอยู่ที่ช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายมือของผู้ขับขี่ จำนวน 1 เม็ด และตรวจสอบภายในรถยนต์พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 1 ชุด จากนั้นได้เชิญตัวมาตรวจสอบที่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อย่างละเอียดอีกครั้ง

จากนั้นสอบถามผู้ถูกจับให้การว่า วันนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 17.50 น.ตนนั้นได้ขับขี่ รถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MITSUBISHI MIRAGR สีฟ้า ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กน-5928 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ริมไหล่ทางด้านซ้ายของถนนสายเอเชีย ระหว่างที่จอดนั้นตนได้กำลังเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) อยู่ภายในรถยนต์ จากนั้นตนได้เห็นรถยนต์ตรวจการเจ้าหน้าที่ทางหลวงขับขี่ผ่านมา ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่ตนนั้นเกิดความตกใจและกลัวการถูกจับกุมจึงได้ขับขี่หลบหนีการจับกุมและเฉียวชนรถยนต์ตรวจการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจริง และขับขี่ด้วยความเร็วแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นมีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันเป็นการขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายและตื่นตระหนกตกใจขึ้นในที่สาธารณะรวมถึงอาจทำให้สุจริตชนได้รับอันตรายจากการกระทำของตน จนกระทั่งรถยนต์ของตนนั้นได้เกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ของตนเอง และรับว่ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) ชนิดกลมแบนมีอักษร WY ที่ด้านข้างอีกด้านหนึ่งผิวเรียบติดอยู่กับชุดอุปกรณ์การเสพ และวางอยู่ที่ช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายมือของผู้ขับขี่ จำนวน 1 เม็ด เป็นของตนจริงโดยมีไว้เพื่อเสพ โดยยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) นั้นตนได้ซื้อมาจากเพื่อนชายชื่อรุ่ง(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง)จำนวน 2 เม็ด ในราคาเม็ดละ 50 บาทและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปทำการตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผลการตรวจวิเคราะห์โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ปรากฏ ผลบวก แสดงว่าพบสารเมทแอมเฟตามีน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต,๒.เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย,๓.เป็นผู้ขับรถฯ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย,4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น,5.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ”จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นแล้ว