ตรวจยึด "ยาบ้า" ข้ามโขงจาก สปป.ลาว 15 กระสอบ จำนวน 6.000,000 เม็ด มูลค่า 180 ล้านบาท
27 ก.พ. 2567, 05:27
เมื่อเวลา 17.10 น.วันที่ 26 ก.พ.ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้แถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 15 กระสอบ จำนวน 6,000,000 เม็ด และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว้ สีขาว ทะเบียน บษ 9007 สกลนคร จำนวน 1 คัน โดยมี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพน้อยที่ 2 พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ , พล.ต.ต.วิญญู อำนวยสมบัติ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ,นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภ.4 , พันเอก วีระวัฒน์ เท้าพิมพ์ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พันเอก สุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นาวาเอกนัฐพัฒน์ ซื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง , พันเอก สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ธานินทร์ ผิวละเอียด ผกก.สภ.บุ่งคล้าตำรวจ สภ.บุ่งคล้า พ.ต.อ.ศุภกฤษ ทองลิ่ม ผกก.ตร.พฐ.บึงกาฬ ปกครองจังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอบุ่งคล้า ตชด.244 ตำรวจ ตม.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นรข.สถานีเรือบ้านแพง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ให้การต้อนรับและร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย ร.ท.โกวิทย์ วงศ์แสง ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 2108 กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ได้รับข่าวสารจากการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานข่าวความมั่นคงในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไม่ทราบจำนวน จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย เพื่อลำเลียงขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงบูรณากำลังวางแผนร่วมกับกำลังในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ บริเวณท่าทรายเก่าริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านดอนใหญ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเพ่งเล็งตามที่รับแจ้ง ครั้นเมื่อเวลา 20.20 นาฬิกา จึงตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว้ สีขาว ทะเบียน บษ 9007 สกลนคร จำนวน 1 คัน ขับออกจาก บริเวณที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการขอตรวจค้น เมื่อผู้ต้องสงสัยพบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ชักอาวุธปืนออกมายิงสกัดจำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ไปถูกตัวถังรถด้านท้ายข้างซุ้มล้อเป็นรูโบ๋ 1 นัด ทุกคนปลอดภัย เพื่อป้องกันการติดตามจับกุมพร้อมกับวิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้ เมื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบสิ่งของต้องสงสัย จำนวน 15 กระสอบ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้า บรรจุอยู่ภายในห่อกระดาษไขสีเหลืองจำนวนมา ประทับตา 999 สีน้ำเงินและสีแดง เป็นยาบ้าเม็ดสีส้มและสีแดง จำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด ราคาขายเม็โละ30 บาท มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท จึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดและรถยนต์กระบะ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือแฝง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบหลักฐานบัตรประชาชนของนายกฤษฎา แสนจันทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 10 ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร และเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว และอุปกรณ์เสพยาบ้า ขวดเบียร์ ขวดน้ำดื่ม จึงเก็บตัวอย่าง DNA ส่งไปตรวจ เพื่อขออนุมัติจากศาลออกหมายจับต่อไป
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า โดยที่ผ่านมากองทัพบก,กองทัพภาคที่ 2 และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ยึดถือตามกรอบแนวคิดของรัฐบาลที่ว่า แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด การลดจำนวนผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่และให้ความรู้เยาวชนถึงภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้บูรณาการกำลังป้องกันชายแดนและทุกส่วนราชการในพื้นที่ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุมตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้งและครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว สุดท้ายขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพราะหากท่านที่เป็นผู้ดูแลและอยู่ในพื้นที่ไม่แจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ ก็คงจะรู้ได้ยาก อีกทั้งขอขอบคุณ ผู้สื่อข่าวทุกท่านที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะ รมว.กลาโหม มีนโยบายป้องกันปราบปรามการขนยาเสพติดตามแนวชายแดน และเพิ่มงบประมาณหรือการปลอบขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าได้เพิ่มงบประมาณเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจติดตามจับกลุ่มผู้ค้า โดยเพิ่มเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพให้กำลังพล เช่น กล้องส่องกลางคืน อุปกรณ์ติดตามรถ ส่วนผู้เสพหรือค้าที่ถูกจับกุมได้ก็จะแบ่งออกเป็นสีต่างๆ จากเบาไปหาหนักตั้งสีเหลืองไปจนถึงสีแดง เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล คาดว่าการตรวจยึดยาบ้าล๊อตใหญ่ครั้งนี้ของจังหวัดบึงกาฬ ก็คงจะสะเทือนถึงกลุ่มผู้ค้าอยู่ไม่น้อย.