สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นักเรียนหลายร้อยคนทางตอนใต้ของฝรั่งเศสมุ่งหน้าไปโรงเรียนโดยสวมเครื่องแบบเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับชาติเพื่อพิจารณาว่าจะต้องบังคับใส่ชุดนักเรียนหรือไม่ โรงเรียนของรัฐในฝรั่งเศสไม่เคยกำหนดให้เด็ก วัยเรียนสวมใส่เครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 1968 แต่เมื่อเดือนที่แล้ว เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีได้ประกาศการโครงการนำร่องของรัฐบาล โดยทดลองสวมใส่เครื่องแบบนักเรียนในโรงเรียน 100 แห่ง โครงการนำร่องของรัฐบาลมีเป้าหมายในการลดความไม่เท่าเทียมกัน ต่อสู้กับการกลั่นแกล้ง และปรับปรุงพฤติกรรม รวมถึงมีเป้าหมายที่จะบังคับใช้ทั่วประเทศในปี 2569 หากประสบความสำเร็จ เนื่องจากบางเมืองมีดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากครู นักเรียน และผู้ปกครอง

นักเรียนราว 700 คนในโรงเรียน 4 แห่งในเมืองเบซิเยร์ทางตอนใต้ ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มแรกที่ลองสวมใส่ชุดนักเรียน รวมถึงมีโรงเรียนประมาณ 92 แห่งได้ลงนามในการปรับใช้นี้ ซึ่งชุดนักเรียนดังกล่าว คือ เสื้อเบลเซอร์สีน้ำเงินกรมท่าที่มีโลโก้โรงเรียน เสื้อโปโลสีขาว 2 ตัว เสื้อสวมหัวสีเทา กางเกงขายาว 1 ตัว กางเกงขาสั้นสำหรับเด็กผู้ชายหรือกระโปรงสำหรับเด็กผู้หญิง

จากการสัมภาษณ์ อเล็กเซีย วัย 7 ขวบกล่าวว่า เอหวังว่าจะได้รับความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมชั้นน้อยลงเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอขณะสวมเครื่องแบบชุดนักเรียน พร้อมกล่าวเสริมว่า บางครั้งพวกเขาจะพูดว่า ‘คุณน่าเกลียด เราแต่งตัวไม่เหมือนกัน’ มันค่อนข้างเจ็บปวด ตอนนี้อย่างน้อยเราก็จะมีกระโปรงแบบเดียวกัน เสื้อแบบเดียวกัน เสื้อแจ็คเก็ตแบบเดียวกัน

นายกเทศมนตรีโรเบิร์ต เมนาร์ด กล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยต่อสู้กับการกลั่นแกล้ง “เมื่อคุณรวยหรือจน คุณจะแต่งตัวไม่เหมือนกันทุกประการ ตอนนี้ จะมองเห็นได้น้อยลง”

แต่สหภาพครูของ SE-UNSA มองมาตรการดังกล่าวว่าเป็น “การตอบสนองอย่างผิวเผินต่อปัญหาพื้นฐาน” และเสริมว่า “จะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาและความล้มเหลวของนักเรียนแต่อย่างใด” ทั้งนี้ โรงเรียนอื่น ๆ มีเวลาจนถึงเดือนมิถุนายนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการริเริ่มนี้