วันนี้ ( 1 มี.ค.67 ) ​เวลา 11.45 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายนาชิดะ คาซูยะ (H.E. Mr. NASHIDA Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมบทบาทสำคัญของเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนการเยือนระดับผู้นำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในด้านเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นนับเป็นนักลงทุนต่างชาติที่มีการลงทุนในไทยสูง ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมขอบคุณที่ญี่ปุ่นยังคงใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะรถยนต์ ทั้งนี้ ไทยพร้อมดำเนินนโยบายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยได้ผลักดันการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามา เพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้น โดยมีผลบังคับใช้ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2569 หวังกระตุ้นการไปมาหาสู่และการดำเนินธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น

เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ยินดีที่ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในไทย ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการช่วยเหลือจากทั้งรัฐบาล พร้อมเน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิด และมีความร่วมมือกันทั้งในทุกระดับ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ไทยและญี่ปุ่นต่างเป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยนักลงทุนญี่ปุ่นยังยืนยันที่จะลงทุนในไทย รวมถึงใช้ไทยเป็นฐานกระจายการผลิตและส่งออก (Regional Export Hub) ไปยังประเทศอื่น ๆ ต่อไป 

นอกจากนี้ ฝ่ายเอกอัครราชูตฯ สนับสนุนให้ไทยพิจารณาร่วมจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีว่าด้วยพลังงานและอุตสาหกรรม (Energy and Industry Dialogue) เพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานสีเขียวและปรับภาคอุตสาหกรรมไทยให้ลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดอุตสาหกรรมโลก

ในโอกาสนี้ สองฝ่ายยืนยันที่จะรักษาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดในทุกระดับ โดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ จะสานต่อความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่นในทุกมิติ ไปยังเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ คนใหม่ ต่อไ