"รัฐบาล" ปลื้ม! ปชช. ตอบรับโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ครอบคลุมการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
2 มี.ค. 2567, 11:46
วันที่ 2 มีนาคม 2567 นายคารม พลพรกลาง เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นลดความเหลือมล้ำ และสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย รวมถึงเป็นการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพ ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข ผ่านโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ โดยในเบื้องต้นได้ทำนำร่องใน 4 เขตสุขภาพที่มีความพร้อมก่อน คือ จังหวัดแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมานั้น สร้างความพอใจต่อการใช้บริการของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประชาชน 4 จังหวัดนี้เท่านั้นที่สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ แต่หมายถึงประชาชนคนไทยสิทธิบัตรทองทุกคน ที่เข้าไปใน 4 จังหวัดดังข้างต้น ต้องการรักษาพยาบาลสามารถใช้บริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้เช่นกัน โดยประชาชนสามารถไปรักษาที่โรงพยาบาล ร้านขายยา คลินิก แล็บ ได้ทุกสังกัดไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ร่วมถึงคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับบริการที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถมารับบริการที่คลินิกทันตกรรมได้นั้น จะเป็นไปตามที่ สปสช. กำหนด คือ บริการตรวจฟัน รวมทั้งงานหัตถการซึ่งจะมี 5 บริการ คือ 1.อุดฟัน 2.ถอนฟัน 3.ขูดหินปูน 4.เคลือบหลุมร่องฟัน และ 5.เคลือบฟลูออไรด์ โดยเบื้องต้น สปสช.กำหนดใช้สิทธิรับบริการได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีงบประมาณ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องรับบริการเพิ่ม ก็สามารถไปรับบริการต่อในโรงพยาบาลรัฐ หรือรับบริการต่อที่คลินิกโดยชำระเงินเอง
“โครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ในเฟส 2 จะมีการขยายเพิ่มอีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ในเดือน มี.ค. - เม.ย. หลังจากนั้นจะดูความพร้อม หากไม่มีปัญหาจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศและขยายทั่วประเทศภายใน 1 ปี คือภายในสิ้นปี 2567” นายคารม กล่าว