ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ไปพบนางสาวทัศนียา  เสียมศักดิ์ อายุ 39 ปี ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 4 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ปลูกเป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนนคอนกรีต “ห้วยปลิง” ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งขาขึ้น กทม.ประมาณ 700 เมตร ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกคนร้ายเดินย่องเข้ามางัดประตูบ้านกลางวัดแสดๆโดยไม่เกรงกลัวว่าบ้านหลังที่ตนเองก่อเหตุนั้นมีกล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมและใบหน้าไว้ได้อย่างชัดเจน
       โดยนางสาวทัศนียาฯ ซึ่งเป็นพี่สาวของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.20 น.(ตามกล้องวงจรปิด)ของวันที่ 29 ก.พ.67 หรือเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายตามกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ใช้อุปกรณ์งัดเข้าไปในบ้านรื้อค้นทรัพย์สินได้ลักขโมยพระเครื่องไปประมาณ 40-50 องค์ซึ่งมีพระเกจิดังหลายองค์ และยังได้เอากระปุกออมสินของหลานสาววัยขวบเศษ ไปด้วยมีเงินเหรียญและใบธนบัตรเป็นเงินหลายพันบาทติดไปด้วย

        พี่สาวเจ้าของบ้านเล่าอีกว่า  ช่วงวันเวลาเกิดเหตุน้องสาวตนและสามีซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านเพราะน้องสาวไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลในตัวเมืองชุมพร และกลับมาพักฟื้นที่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่คนละพื้นที่กัน   มาทราบว่าบ้านถูกงัดตอนที่แม่สามีน้องสาวกลับมาจากทำงานพบว่ามีรอยรื้อค้นในห้องนอน ตรวจสอบทรัพย์สินหายไปตามที่แจ้งเบื้องต้น 

        บ้านสวนหลังเกิดเหตุเพิ่งจะทำเสร็จได้ไม่นาน สิ่งของมีค่ายังไม่ได้ย้ายเข้ามา ทำให้คนร้ายได้อะไรไปไม่มาก  หลังจากที่คนร้ายได้ลักพระเครื่องทั้งหมดไปแล้ว  จากนั้นมีคนตัดยางพาราสวนใกล้บ้านไปเจอพระเครื่องประมาณ 20 องค์และกระเป๋าพร้อมกับเอกสารต่างๆที่คนร้ายลักไปวางทิ้งไว้ จึงได้ทรัพย์กลับมาบางส่วน 

         ถามว่าคุ้นหน้าคนร้ายบ้างหรือไม่ นางสาวทัศนียา บอกว่าด้วยตนเองและน้องสาวไม่ค่อยได้อยู่บ้านสวนหลังนี้จึงไม่รู้จักคนในหมู่บ้าน หน้าคนก่อเหตุพอคุ้นๆแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ขณะที่เมื่อวาน( 1 มี.ค.)น้องเขยได้เข้าพบตำรวจ สภ.บ้านวิสัยเหนือ ให้ปากคำเพิ่มเติมและบอกว่าให้รอตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายแล้ว

       อยากเตือนว่าบ้านเรือนควรติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างน้อยสามารถเห็นพฤติกรรมหรือใบหน้าของคนร้ายได้  แต่ใช่ว่าบ้านที่อยู่ริมถนนจะปลอดภัยเสมอไป โจรอย่างไรก็หาทางเข้าบ้านจนได้ทุกทาง ส่วนของมีค่าถ้าไม่จำเป็นอย่าเก็บไว้ที่บ้าน” พี่สาวผู้เสียหาย กล่าวไว้