นางอุมาพร เปิดเผยว่า การนับคะแนนของคณะกรรมการเลือกตั้งไม่มีความโป่งใส โดยจะเห็นได้จากคลิปหลักฐานการนับคะแนน เห็นว่าระหว่างการนับคะแนนเจ้าหน้าที่มีการหยิบบัตรเลือกตั้งออกจากหีบเลือกตั้งมาหลายใบแล้วมีการคลี่ดูผลการเลือกตั้ง ก่อนยื่นให้มีการขานคะแนน และยังไม่ยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์สามารถมองเห็นชัดเจน เมื่อมีการขานบัตรเลือกตั้งเป็นบัตรดีและบัตรเสีย และนอกจากนี้ ระหว่างน้บคะแนน ซึ่งเหลือบัตรเลือกตั้ง จำนวน 2 บัตร คะแนนผู้สมัคร มีคะแนนเท่ากัน คือคนละ 209 คะแนน แต่คณะกรรมการเลือกตั้งได้วิเคราะห์ให้บัตรที่ลงคะแนนให้เบอร์ 1 เป็นบัตรเสีย แต่บัตรที่ลงคะแนนให้ผู้สมัครเบอร์ 2 เป็นบัตรดี จึงทำ่ให้ ผู้สมัคร เบอร์ 2 ชนะไปด้วยคะแนน 210 คน

โดยทางผู้สังเกตการณ์ได้ร้องขอให้คณะกรรมการนับคะแนน ได้วินิจฉัย บัตรลงคะแนนของผู้สมัรเบอร์ 1 ที่เป็นบัตรเสีย หรือบัตรดี แต่คณะกรรมการนับคะแนน ก็ไม่ได้ฟังเสียงคัดค้าน ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน 

จึงได้เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านขอให้ตรวจสอบบัตรเสีย และบัตรดี ณ ห้องปกครอง อ.ห้วยเม็ก พร้อมกับให้ทำการอายัดหีบบัตรเลือกตั้งไว้เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2567 ที่ สภ.ห้วยเม็ก เพื่อให้ทำการตรวจสอบบัตรดีและบัตรเสีย หรือนับคะแนนใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจ้งจากนายอำเภอห้วยเม็ก และยังไม่มีความคืบหน้าที่อย่างใด กลับมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 คนใหม่ขึ้นในวันที่มีการเลือกตั้งวันนั้นเลย (วันที่ 18  ม.ค.2567) จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้ร้องฯ และพยานหลักฐาน พร้อมกับรวมรวมหลักฐานจากผู้ร้องฯ ก่อนส่งสำนวนให้ ปปช.จังหวัดกาฬสินธุ์ดำเนินการไต่สวนต่อไป

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ ประสานงานไปถึง นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายอำเภอห้วยเม็ก แต่ไม่ได้รับความชัดเจน โดยนายผดุงศักดิ์ ได้ตอบกับผู้สื่อข่าวด้วยนำเสียงห้วนๆว่า ใคร ทำไม่ มีอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวได้แจ้งความประสงค์ต้องการเข้าสัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว แต่ นายผดุงศักดิ์ กลับวางสายไปดื้อๆ และไม่ยอมรับสายอีกเลย...