กมธ.งบฯ 67 ตัดงบกว่า 9 พันล้าน ตีตกซื้อเรือฟริเกต เผยเข้าสภาฯ 20-21 มี.ค.นี้
8 มี.ค. 2567, 15:58
วันนี้ ( 8 มี.ค.67 ) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณางบประมาณว่า กมธ.ได้พิจารณางบประมาณของหน่วยงานทั้งหมด 730 หน่วยงาน ครบถ้วน 100เปอร์เซ็นแล้ว สำหรับการประชุมวันนี้(8 มี.ค.) เป็นการเข้ามารายงานของหน่วยงานที่ไม่ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ และจะประชุมครั้งสุดท้ายในวันพุธที่ 13 มีนาคม เพื่อพิจารณาและรับรองร่างฯ โดยจะพิจารณารายมาตรา ก่อนเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 20-21 มี.ค. 67
สำหรับการพิจารณางบประมาณ ปี 67 กมธ.ปรับลดงบประมาณทั้งสิ้นจำนวนกว่า 9,000ล้านบาท โดยเป็นการดำเนินการตามกรอบนโยบายฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่เห็นตรงกันว่าการพิจารณางบประมาณจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน สอดคล้องแนวทางของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการนำเสนองบฯ ปี 68 ต้องสอดรับและเป็นไปตามนโยบาย คือมุ่งเน้นประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับประชาชน รวมถึงงบที่เกิดประโยชน์น้อย เช่น การสัมมนา การฝึกอบรม การดูงานต่างประเทศ ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะหากเกิดประโยชน์น้อย จะถูกตัดลดงบอย่างแน่นอน ดังนั้นการปรับลดงบประมาณกว่า 9,000 ล้านบาทนี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยงานที่ขอรับงบประมาณ พร้อมย้ำว่า ปีหน้างบประมาณใดที่จะเสนอในปี 68 หากยังมีส่วนที่เกิดประโยชน์น้อย กมธ.จะต้องพิจารณาโดยละเอียด ทั้งนี้ คำว่า ประชาสัมพันธ์ หากเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ประชาชนและประชาชนได้ประโยชน์จริง กมธ.จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด ถี่ถ้วน
ส่วนกรณีกองทัพเรือยื่นอุทธรณ์ต่อ กมธ.ชุดใหญ่ หลังอนุ กมธ.ตัดงบในโครงการจัดหาเรือฟริเกต 17,000 ล้านบาทนั้น กมธ.เห็นตรงกันว่า โครงการดังกล่าวยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่าจะซื้อจากที่ไหน อย่างไร จึงให้หน่วยงานไปทำการบ้านมาใหม่ และในปี 68 ก็สามารถเสนอเข้ามาใหม่ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากงบประมาณจำนวนจำกัดจึงต้องจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรควรทำก่อน และอะไรที่ควรรอก่อน ซึ่งการพิจารณางบฯ 67 ส่วนใหญ่เมื่อกลับเข้าสู่ กมธ.ชุดใหญ่ การพิจารณาจะเป็นไปตามที่ อนุ กมธ.พิจารณา แต่มีบางหน่วยงานที่ถูกตัดในชั้น อนุ กมธ. และขออุทธรณ์ ซึ่ง กมธ.ชุดใหญ่ ได้พิจารณาคืนงบประมาณให้
นายอนุสรณ์ ฝากถึงหน่วยงานที่จะจัดทำคำขอรับงบประมาณ ปี 68 ด้วยว่า ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ โดยการพิจารณางบประมาณปี 68 จะเข้มข้นขึ้น ดังนั้นงบประมาณต้องสอดรับนโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ของรัฐบาลด้วย