วันนี้ (11 มี.ค.67) เวลา 11.30 น.ร.ต.อ ประวิทย์ อิ่มใจ  รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนที่บ้านห้วยเจริญ หมู่ 16 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง รถดับเพลิงของอบต.หนองไฮรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและมีลม ทำให้ไฟได้ไหม้บ้านไปเกือบหมดทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำฉีดเข้าไปได้บางส่วนเท่านั้นเพื่อไม่ให้ไฟทะลุลุกลามไปอีก  โดยทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเลขที่ 25 ม.16 บ้านห้วยเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของนายอารีย์  โคตรเพชร  อายุ 66 ปี อดีตกำนันต.หนองไฮ โดยที่เจ้าตัวที่ป่วยเดินไม่สะดวกได้พาภรรยาหนีตายวิ่งออกมาจากบ้านได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ไฟได้ลุกโหมกระหน่ำ ไม่สามารถเอาทรัพย์สินหรือของมีค่าออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ขณะที่มีคลิปของชาวบ้านที่ถ่ายเอาไว้ได้ขณะเกิดเหตุ ชาวบ้านได้วิ่งช่วยกันหาน้ำมาดับไฟเพราะกลัวจะลามไปยังบ้านหลังใกล้เคียง และร้องตะโกนให้รีบพานายอารีย์และภรรยาออกมาจากบ้าน เพราะได้ยินเสียงถังแก๊สระเบิด และชาวบ้านต่างช่วยกันถือถังน้ำไปดับไฟท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกไหม้เข้าใกล้แทบไม่ได้  ก่อนที่จะรถดับเพลิงจะมาถึง ขณะที่มีเสียงของนางนิตยา ภรรยาของอดีตกำนัน วิ่งหน้าตื่นมาจากสวนดอกไม้ ร้องห่มร้องไห้ เพิ่งไปสวนเมื่อกี้นี้ทำไมไฟไหม้บ้าน เคยได้ยินแต่ทางอื่นทำไมมาเกิดกับบ้านตนเอง และถามหาสามีว่า พ่อใหญ่หลวงอยู่ไหน หมดกันแล้วบ้านไม่เหลืออะไร ทรัพย์สินมีค่าไปหมดแล้ว  และร้องไห้ฮือๆ ออกมาเสียงดังมีชาวบ้านช่วยปลอบใจว่าไม่เป็นไรหรอก บ้านเราสร้างใหม่ได้ ดีที่ช่วยคนออกมาได้ก็ดีแล้ว

หลังเพลิงสงบ ตร.เข้าตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนและไม้ 2 ชั้นถูกไฟไหม้วอดไปทั้งหลัง เหลือแต่เสาบ้านดำเป็นตอตะโก นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถจักรยาน 1 คัน ทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านเสียหายหมด มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ส่วนสาเหตุจากการสอบถามเจ้าของบ้านทราบว่า ได้ยินเสียงแตกบนชั้น 2 ของบ้านคล้ายเสียงไฟช็อต ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ คาดว่าสาเหตุไฟไหม้บ้านครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสายไฟเก่ากว่า 30 ปี และอากาศที่ร้อนระลุเกือบ 40 องศา แต่อย่างไรแล้วจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

น.ส ผ่อง  พงษ์พรม อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นไฟลุกไหม้บ้านกำนัน บอกว่า ตอนนั้นตนเองกำลังกวาดบ้าน มองไปเห็นบ้านอดีตกำนันควันขึ้น ตอนแรกควันขึ้นไม่เยอะ ไม่ถึง 5 นาทีไฟได้ลุกไหม้แรงมาก ตนก็ตกใจรีบแจ้งชาวบ้านให้มาช่วยกันดับไฟ และวิ่งไปบอกชาวบ้านให้โทรหารถดับเพลิงอบต. ใจก็กลัวจะลามมาบ้านตนเอง ดีที่ชาวบ้านเรียกนายอารีย์หรือพ่อใหญ่หลวงออกมาได้ เพราะไม่สบายเดินไม่สะดวก

นางนิตยา  โครตเพชร อายุ 60 ปี ภรรยานายอารีย์ อดีตกำนัน กล่าวกับนักข่าวพูดไปสะอื้นไห้ไป บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวเอาถังน้ำแข็งมาเก็บดอกไม้สดด้วย เพราะทำสวนดอกไม้และรับซื้อชาวบ้านเอาไปขายต่อ ก่อนเกิดเหตุตนเองออกไปดูสวนดอกไม้กับหลานไปได้ไม่นาน สามีอยู่บ้านคนเดียวก็โทรไปบอกว่าไฟไหม้บ้าน รีบมาตกใจมาก พอมาถึงเข่าทรุดและร้องไห้ เพราะไฟไหม้บ้านไปหมดทรัพย์สินมีค่าวอดไปหมดไม่เหลืออะไรเลย ที่เสียดายคือทองหนัก 5 บาทมูลค่า 185,000 บาทเงินสดอีกประมาณ 200,000 บาท รวมๆ แล้วก็ 385,000 บาท ที่เก็บหอมรอมริบเอาไว้ เพื่อจะเอามาสร้างบ้านใหม่ กำลังจะพากันรื้อหลังเก่า สั่งเหล็กมาแล้ว 20,000 บาทสุดท้ายก็มาถูกไฟไหม้หมดไปทั้งหลัง 

ส่วนนายอารีย์ โคตรเพชร อายุ 66 ปี อดีตกำนัน บอกว่า ก่อนไฟไหม้ตนเองนอนเล่นอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงตุ๊บๆ อยู่ด้านหลังบ้าน ตอนแรกคิดว่ามีคนเข้ามาในบ้าน จึงเดินเข้าไปดูก็เจอไฟไหม้บ้านแล้ว ตกใจมากรีบเดินออกมาแต่ก็เดินไม่สะดวกเพราะป่วยขาอ่อนแรง ก็ร้องให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยบอกว่า ไฟไหม้ๆ แต่ไฟไหม้เร็วมาก เกือบออกมาไม่ทัน เมื่อคืนไม่ฝันไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย แต่เมื่อวานไม่รู้เป็นอะไรหรือปากจะพาไป ดันไปถามภรรยาว่า ใบประกันไฟไหม้เราอยู่ไหนเฒ่า โดยตนเองได้ทำประกันอัคคีภัยเอาไว้ 1 ล้านบาทเอกสารก็ถูกไฟไหม้ไปด้วย  ไม่รู้นึกยังไง ถึงไปถามภรรยาแบบนั้น สุดท้ายวันนี้ไฟก็มาไฟไหม้บ้านวอดไปทั้งหลังเหลือแต่เสา  พูดมาแล้วก็ลืมเลย ซื้อล็อตเตอร์รี่เอาไว้อีก 6 ใบไฟก็ไหม้ไปหมดด้วยเช่นกัน อดีตกำนันกล่าวตอนท้ายด้วยความเศร้าใจ