จากกรณีมีคนร้ายเข้่ไปก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาตอนปลาย ไปจากวัดประตูสาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี  ในคืนวันที่ 11 มีนาคม 2567 โดยการตัดแม่กุญแจเข้าไปในพระวิหาร จากนั้นทำการโจรกรรม พระพุทธรูปปางห้ามญาติ  เนื้อสัมฤทธิ์  อายุประมาณ 300 ปี , โบราณวัตถุ เช่น ตู้พระธรรม 3 ใบ  พระพุทธรูปไม้แกะประมาณ 6-7 องค์  และ ภาพจิตรกรรมเขียนสีฝุ่นพุทธประวัติสมัย ร.5 อีก หลายภาพ  รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้แก่พุทธศาสนิกชน ต่างแชร์ภาพลงโซเชียลช่วยตามหา เพราะมีคุณค่าทางจิตใจแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามและสืบหาคนร้ายกระทั่งพบรถยนต์ ต้องสงสัยคันหนึ่ง หมายเลขทะเบียน  กก 3379 สุพรรณบุรี เสื่อตรวจสอบพบว่าถูกขโมยทะเบียนไป และเจ้าของรถ  คือ น.ส.อานงค์ จิตพิทักษ์ธรรม  ได้มาแจ้งความเอาไว้เมื่อวันที่  9 มี.ค.67 เวลา 16.29 น.ว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน  กก 3379 สุพรรณบุรี  ของตนเอง ที่จอดรถไว้บริเวณภายในวัดประตูสาร โดนคนร้ายขโมยไปจึงมาแจ้งความเพื่อตามหาคนร้ายเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว

กระทั่งเช้าวันที่ 12 มี.ค. เวลา 07.00 น. พ.ต.ท.บุญนำ  โสมอินทร์  สว.สืบสวน สภ.เมือง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบพระพุทธรูป คาดว่าจะเป็นองค์ที่คนร้ายโจรกรรมมาทิ้งที่ถนนเลี่ยงเมือง ปากทางเข้าบ้านเลขที่  81/1 หมู่ 1 ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ  เดินทางไปตรวจสอบพร้อม ส.ส.สรชัด  สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี รุดไปตรวจสอบ เป็นพระพุทธรูปองค์ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมมา เพราะมีโค้ด ว.ต.ส.81 จึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

นายศักดิ์ดา จำปาเงิน อายุ 40 ปี พลเมืองดีผู้พบพระองค์ที่โดนคนร้ายโจรกรรมมาจากวัด ประตูสาร กล่าวว่าตอนประมาณ 04.50 น. ตนกำลังขับรถออกจากบ้านจะไปรับภรรยา  เมื่อมาถึงก็พบวัตถุบางอย่างมีกระสอบคลุมอยู่ ตอนแรกนึกว่าผี ก็ตกใจกลัว แต่ตนไม่ใส่ใจได้ขับรถไปรับแฟนกระทั่งกลับมาตอนประมาณ 6 โมงเช้า ก็ยังเห็นอยู่ที่เดิม จึงลงมาเปิดกระสอบออกมาดูก็พบว่าเป็นพระพุทธรูปจึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ