วันนี้ ( 13 มิ.ย.62 ) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงนามในหนังสือที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ เข้าชื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ส.​จำนวน 41 คน ที่พบเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยรองนายกฯระบุว่า ตนไม่ทราบ เมื่อส่งไปก็แล้วแต่ศาลจะรับหรือไม่รับ ถ้ารับจะพิจารณาออกมาว่าอย่างไร คงไม่ไปพูดนำอะไรก่อน

โดยนายวิษณุ เผยเรื่องดังกล่าวอาจคงกระทบการทำงานในสภาฯบ้าง แต่ทำให้ชัดเจนดีกว่า ถ้าเกรงว่าจะเกิดความคลุมเครือและส่งผลกระทบไปยาวนาน อะไรที่คาใจควรทำให้จบไป จะได้ไม่ต้องพูดกันอีก ปัญหาวันนี้คืออะไรที่คาใจและยื่นร้องไปแล้ว แต่ไม่ถูกใจก็ยังพูดกันต่อ ซึ่งอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่การทำให้เกิดความชัดเจนเป็นสิ่งที่ดี

“ถ้าศาลให้หยุดก็หยุด แต่คงไม่ถึงกับกระทบอย่างที่เราคิด และคงต้องหักจำนวน ส.ส.พวกนี้ออกไป เหลือเท่าไหร่ก็ว่ากัน ส่วนจะมีผลต่อการลงมติกฎหมาย หรือไม่มีก็ได้ ก็ต้องเอาเสียงมาวัด โดยจำนวนเสียงกึ่งหนึ่งของสภาฯ 500 คนจะเปลี่ยนไป ขณะที่ฝ่ายค้านยังรักษาสัดส่วนของเขาไว้ได้ตลอด นี่คือสิ่งที่กระทบ” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่เน้นว่าการพิจารณาควรใช้มาตรฐานเดียวกันกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะข้อเท็จจริงในการยื่นต่างกัน บางคนอาจจะคล้ายกับนายธนาธร ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครเป็นใครบ้าง แต่ส่วนใหญ่อาจจะเป็นคนละอย่างกัน และถึงแม้จะเป็นคนละอย่างกับนายธนาธร แต่ก็อาจใช้หลักเดียวกันก็ได้ ตนไม่ทราบ

ขอบคุณ : มติชน