วันที่ 17 มีนาคม​ 2567 เวลา​ 10.00 น.​ นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ออส.) ประชุมหน่วยงานบูรณาการและติดตามสถานการณ์ไฟป่า​ พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานพื้นที่​ ณ​ อุทยานแห่งชาติขุนแข จังหวัดเชียงราย โดยมี​นายพุทธพจน์ คูประสิทธิ์​ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา​ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า​ นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล​ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ​ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯ

 

ในห้วงเวลาเดียวกันนี้​ เมื่อปี 2566 อุทยานแห่งชาติขุนแจ เกิดไฟป่า 7 จุด โดยปีนี้ได้เกิดไฟป่าขึ้น 2 จุด​ ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรับสถานการณ์ไฟป่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแพลทเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว​ ในบริเวณพื้นที่ยอดเขาสูง เพื่อใช้สำหรับจัดส่งกำลังบำรุงและเสบียงอาหาร และตรวจหาไฟป่า​ สำหรับในการจัดเตรียมกำลังพลให้เจ้าหน้าที่เตรียมกระเป๋าสัมภาระและเสบียงอาหารให้พร้อมสามารถเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่โดยทันทีหากเกิดเหตุ และวางแผนให้สามารถค้างคืนในป่าอย่างน้อย 2-3 คืน​ เพื่อดับไฟให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้หากสถานการณ์ยืดเยื้อให้มีการสับเปลี่ยนกำลังสนับสนุน พร้อมส่งเสบียงให้ชุดที่เข้าดับไฟ​ และขอให้สำนักป้องกัน​ ปราบปราม​ และควบคุมไฟป่า จัดทำฐานข้อมูลแพลทเฮลิคอปเตอร์ทั่วประเทศ​ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างทันท่วงทีด้วย

สำหรับงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 
จากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 ที่ได้รับการจัดสรรให้ใช้ในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5​ ให้เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยให้ประชาชนโดยรอบพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า​ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาคิและสิ่งแวดล้อม​ และขอให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน และขอให้ทุกหน่วยงานทุ่มเทสรรพกำลังเข้าปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ที่ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง และคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ.