ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายบรูโน แมส ผู้แทนขององค์การยูนิเซฟ (UNICEF) หน่วยงานช่วยเหลือเด็กในสังกัดของสหประชาชาติ (UN)ประจำประเทศเฮติ กล่าวว่า เกิดเหตุแก๊งอาชญากรบุกปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากโกดังสิ่งของบรรเทาทุกข์ของสำนักงานยูนิเซฟประจำกรุงปอร์โตแปรงซ์ เฮติในวันนี้ ระบุว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟประจำเฮติได้จัดเตรียมไว้แจกจ่ายแก่แม่ และทารกเกิดใหม่ รวมถึงเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง

 นายแมส กล่าวว่า การปล้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ คือ ในช่วงเวลาที่เด็กๆขาดแคลนอาหาร ต้องการความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์มากที่สุด วิงวอนให้กลุ่มคนร้ายยุติการปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จัดเตรียมไว้สำหรับเด็กโดยทันที พร้อมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่องค์กรการกุศลสามารถเข้าไปปฏิบัติงานในท้องที่ต่างๆอย่างปลอดภัย

 

 กลุ่มคนร้ายยังได้บุกปล้นสะดมโกดังสิ่งของบรรเทาทุกข์อื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของยูนิเซฟจัดเตรียมไว้สำหรับแจกจ่ายให้กับกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน เช่น อุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์ใส่น้ำดื่มด้วย ที่ผ่านมา กลุ่มอาชญากรต่างๆในเฮติบุกเข้ายึดตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 260 ตู้ ซึ่งองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ รวมถึงยูนิเซฟส่งทางเรือมายังท่าเรือหลักของเฮติเมื่อสัปดาห์ก่อน

 ก่อนหน้านี้ เหตุจลาจลในเฮติในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนม.ค.กระทั่งเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับแก๊งอาชญากร ภายใต้การนำของนายจิมมี เชริซิเยร์ หัวหน้าแก๊ง ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว คนร้ายเสียชีวิตหลายราย นอกจากนั้น เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมรุนแรง ขณะที่ ระบบสาธารณสุขของเฮติใกล้พังทั้งระบบ

 ในปัจจุบัน โรงพยาบาล 6 ใน 10 แห่งในเมืองหลวงปิดบริการเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า เชื้อเพลิงและขาดแคลนเวชภัณฑ์ ส่งผลให้ 3 ใน 4 ของแม่และทารกในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขและการช่วยเหลือด้านโภชนาการจากหน่วยงานรัฐ