"สมศักดิ์" จี้ตำรวจเร่งจับผู้ต้องหารุมโทรม ด.ญ. ประสานเยียวยาครอบครัว
18 มี.ค. 2567, 16:01
วันนี้ ( 18 มี.ค.67 ) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณี เด็กหญิงชาวสุโขทัย ถูกกลุ่มเยาวชนชายกว่า 10 คนรุมโทรม ในกระท่อมแห่งหนึ่งที่อำเภอบ้านด่านลานหอยว่า ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและผู้เสียหาย เรื่องดังกล่าวนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในสังคม เวลานี้ตนได้ติดตามมาตลอดและได้กำชับสั่งการไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนของตำรวจที่ต้องเร่งจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และปิดคดีให้เร็ว เพื่อให้สังคมเกิดความสบายใจในเรื่องคดีความ และเรื่องนี้ตำรวจต้องไปตามต่อเพราะเวลานี้มีผู้เสียหายที่เป็นเด็กหญิงที่เคยถูกกระทำได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติม
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าในส่วนของการเยียวยา สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุโขทัยได้ประสานผู้เสียหาย เพื่อให้คำปรึกษากฎหมาย พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2559) เบื้องต้นให้แก่ นางณภัชชา นนธิสอน ซึ่งเป็นย่าของผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากคดีนี้ผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กรณีเหตุดังกล่าวจะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา คือ 1.ค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง จำนวนไม่เกิน 40,000 บาท2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ (จ่ายไม่เกิน 20,000 บาท) 3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ฯ 4.ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น กรณีข่มขืนกระทำชำเราให้จ่าย จำนวน 40,000 - 50,000 บาท ทั้งนี้อยู่ที่การพิจารณาของอนุกรรมการจังหวัดที่จะต้องเร่งพิจารณาในส่วนนี้
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการรักษาตัวในเวลานี้ได้กำชับแพทย์ประจำโรงพยาบาลให้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด รวมถึง สหวิชาชีพต้องเยียวยาสภาพจิตใจเยาวชนรายนี้ เพื่อประเมินภาวะสุขภาพจิตของญาติและผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียหาย โดยการวิเคราะห์ผลกระทบในทุกมิติ เช่น ผลกระทบทาง ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และการศึกษา เพื่อนำข้อมูลมาใช้วางแผน ให้การช่วยเหลือให้ดีที่สุด
“ขอบคุณหน่วยงานราชการทุกส่วนที่ได้ทำงานอย่างรวดเร็ว ใส่ใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เลวร้าย ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม ผมต้องการให้คดีนี้ปิดโดยเร็ว การเยียวยาต้องรวดเร็ว เรื่องสภาพจิตใจของเด็ก ต้องดูแลให้ดีที่สุดเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ว่าเหตุการณ์ลักษณะ นี้ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ใดทั้งสิ้น จากนี้คงต้องมานั่งดูกฎหมายเยาวชนว่าจะปรับปรุงอะไรได้บ้างให้เข้มข้น เพื่อให้สังคมสบายใจและทำให้เยาวชนไม่กล้ากระทำผิด หรือกลับมากระทำผิดซ้ำ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว