เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวONB news รายงานว่า หลังอุบัติเหตุรถชนกันและมีเพลิงลุกไหม้บนถนนสายโรงน้ำตาล - ปลวกแดง หมู่ 1ตำบลตาสิทธิ์และมีผู้เสียชีวิตหลายราย เป็นรถยนต์ตู้สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน ฮภ -3834 กรุงเทพมหานคร  สภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหายพังยับ  ผู้ขับขี่คือนายอาหามะพาราดี  สาเม๊าะ อายุ 35 ปี บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องใช้เครื่องตัดถ่างให้ความช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลปลวกแดง  ก่อนส่งต่อ โรงพยาบาลระยอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะที่คู่กรณี เป็นรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นHRV หมายเลขทะเบียน ขล -4924 ชลบุรี  สภาพพังยับเยินและมีเพลิงลุกไหม้ ซึ่งชาวบ้านช่วยกันใช้ถังดับเพลิงเคมีควบคุมเพลิงไว้ได้  และภายในรถเก๋งสีดำ มีผู้เสียชีวิต คือนายโชคชัย คลังใหญ่ อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่ มีผู้โดยสารนั่งมาในรถยนต์เก๋งเป็นแรงงานกัมพูชา 2คน เป็น ชาย 1 คน และหญิงตั้งครรภ์ 1คน อุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม4 ราย เป็นเหตุการณ์สลด ที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าว ONB news ลงพื้นที่ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง พบ นายประชาติ โพธิ์ชัย อานุ45 ปี เป็นเพื่อนนายอาหามะพาราดี  สาเม๊าะ อายุ 35 ปี คนขับรถตู้ เล่าว่า หลังได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลปลวกแดงก่อนที่จะส่งต่อไปโรงพยาบาลระยอง และไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลระยอง

  นายประชาติ เล่าอีกว่า นายอาหามะพาราดี  สาเม๊าะ ผู้เสียชีวิต ชื่อเล่น  มะ เขาเป็นคนที่หลายคนรักใคร่ ซึ่ง ถ้าเขาไม่แรกคิวก็คงไม่ตาย ที่ปกติ มะ จะวิ่งส่งพนักงานสายปลวกแดง กับ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด และก่อนเกิดเหตุ มะ ได้ไปรับพนักงานออกมาจากบริษัทที่ตนขับรถรับส่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง  รับออกมาเวลาประมาณ 2 ทุ่ม  แล้วไปส่งพนักงาน ที่ มาบปู ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังส่งเสร็จประมาณ 3 ทุ่ม ก็มาประสบอุบัติเหตุ ดังกล่าว ส่วนตัวมองว่า ดวงของมะ เขาถึงฆาต ทั้งที่ไม่ใช่คิวเขารับส่งพนักงานสายมาบปู เลย ส่วนตัวจึงมองว่า ถ้าเขาไม่แลกคิวกับเพื่อนเขาก็คงไม่ตาย

 

น.ส.นิชาพรรณ ม่วงยิ้ม ภรรยา ของนายโชคชัย คลังใหญ่ อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิต เป็นคนขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าHRV สีดำ เล่าว่า สามี เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างตามไซต์งานในโรงงาน ขณะเกิดเหตุก็กำลังเดินทางกลับบ้านที่ในอำเภอเมือง จ.ชลบุรี โดยมีคนงานแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา นั่งโดยสารมาด้วยเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุสามีได้พูดเป็นลางในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า เหนื่อย ไม่ไหวแล้ว แม่ หนูอยากกลับบ้านเกิด  และในช่วงบ่ายวันเดียวกันก็ได้โพสเฟซบุ๊กส่วนตัว อีก ว่า แม่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว หนูอยากกลับบ้าน ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียสามีไปในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ 
โดยจะนำศพไปตั้งที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอเอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา