ครม.สัญจรอนุมัติงบ 300 ล้าน ใน 13 โครงการ พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
19 มี.ค. 2567, 15:39
วันนี้ ( 19 มี.ค.67 ) เวลา 11.20 น. ณ หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงต่อสื่อมวลชนถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในครั้งนี้ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 จ.พะเยา ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่) โดยได้เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัดและจังหวัด รวม 9 โครงการ กรอบวงเงิน 155 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการของโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชนจำนวน 4 โครงการ กรอบวงเงิน 145 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ได้มีข้อหารือในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งจัดทำสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัดและศึกษาถึงการประกาศให้จังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินพะเยาตามที่ได้มีการลงพื้นที่ไปเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำต้องตั้งสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัดพะเยาให้ได้ภายในไตรมาส 4 นี้
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการเรื่องขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการขยายเส้นทางจราจรบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก จ.พะเยา และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทย - ลาว ซึ่งปัจจุบันมียอดสั่งซื้อวัวเป็นจำนวนกว่า 100,000 ตัว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจของภาคเหนือ
รวมทั้งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการการผลิตลำไยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้ปริมาณการผลิตสมดุลกับความต้องการของตลาด ผลผลิตมีคุณภาพสูง มีระบบ Food Safety และมีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูปลำไยหลากหลายซึ่งจะทำให้ราคาลำไยมีประสิทธิภาพและไม่เกิดภาวะลำไยล้นตลาด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตามที่มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผานั้น ปัจจุบันประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากการเผาของประเทศเพื่อบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อกำหนดนโยบายการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วง High season และขอให้เป็นไปตามข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ระหว่างประเทศ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับพระราชบัญญัติอากาศสะอาดที่กำลังจะผ่านวาระของสภาผู้แทนราษฎรด้วย
พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งมีการเติบโตของประชากรสูง เช่น ประเทศไนจีเรีย ประเทศซิมบับเว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีแหล่งทรัพยากรมาก รวมทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานอีกด้วย นอกจากนั้น จากการที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอุทยานการเรียนรู้พะเยา (TK Park) ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างอาชีพให้กับเยาวชน มีการนำองค์ความรู้มาบ่มเพาะ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์กรความรู้ของกระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ไขกฎเพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจและส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนต่อไป