ล่าสุด(1เม.ย.67) ทางด้าน ซาร่า คาซิงกินี ได้ออกมาโพสต์ภาพอุ้มท้อง ยืนเคียงคู่หนุ่มปริศนา หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตแซะว่ามีแฟนใหม่ก็ท้องอีกแล้ว บางส่วนก็เข้ามาแสดงความยินดี ต่อมา ซาร่า ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวว่า "จากรูปที่โพสต์ด้านล่างนั้น เป็นประเด็นถกเถียง ด่าทอกัน ว่าด้วยเรื่อง ท้องซาร่า มดลูกซาร่า แต่ลำบากเดือดร้อนคนอื่นๆ โอเคแหละ เรามันตัวมัม ตัวมารดา ตัวคลอดบุตร ตัวแม่พันธุ์ ท้องทีไร คนอื่นด่าเกรี้ยวกราดกันยกใหญ่ ทำให้เราตั้งคำถามว่า การท้องของซาร่ามันผิดต่อสังคมหรือเป็นภัยสังคมยังไง? ท้องก็ท้องซาร่า ลูกก็ลูกเรา เลี้ยงก็เลี้ยงเอง ไปลำบากใครข้างบ้านมาช่วยเลี้ยง ช่วยส่งเสียหรือเปล่า? คือ ท้องกับแฟนกับสามีค่ะ คนที่เคยรัก เคยคบกันจริงจัง ไม่ได้ไปแย่งสามีใคร ไม่ได้ไปเป็นเมียน้อยใคร ณ วันนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรัก พอวันหนึ่งความสัมพันธ์มันจบ ทำไมต้องหาคนผิดหรือโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ความเป็นผัวเมียมันตัดขาดกันได้ค่ะ แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่ของลูกมันคงอยู่ไปตลอดชีวิต  เราก็แค่ทำหน้าที่ของการเป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กๆให้ดีที่สุด มันคือผลผลิตจากเราทั้งสองคน ถึงเวลาที่เกิดมาเราก็ช่วยกันรับผิดชอบลูกเรากันเองก็เท่านั้น ส่วนรายละเอียดการรับผิดชอบจะเป็นจะตกลงกันยังไง มันก็แล้วแต่ครอบครัวนั้นๆ ใครมีมากมีน้อย อยากทำจัดการดูแลส่วนไหน อะไรทำได้ ก็ทำไป เพราะผลลัพธ์ทุกอย่างไปอยู่ที่ลูกๆค่ะ ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ซาร่าเลือกที่จะไม่มีพวกเขาก็ได้ เลือกที่จะรักตัวเอง เห็นแก่ตัว ห่วงอนาคตตัวเองที่ยังไปอีกไกลในหน้าที่การงานก็ได้ แต่ซาร่าก็เลือกที่จะมีพวกเขา 

สุดท้ายแล้วเด็กๆก็อยู่กับแม่คนนี้ อยู่ในความดูแล อบรบ สั่งสอนเลี้ยงดู  เข้าใจนะสังคมเรามันยังมีความเหลื่อมล้ำ ผู้ชายมีเมียมีลูกหลายบ้าน ไม่ถูกสังคมดูถูกดูแคลน ในทางกลับกันผู้หญิงที่มีลูกติดเพียงหนึ่งก็กลายเป็นผู้หญิงไม่ดีทันที ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่อยากจะเลิกกับพ่อของลูก  อยากจะเริ่มต้นใหม่หลายๆครั้ง เราก็อยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบนั่นแหละ การที่เคยมีครอบครัวมาแล้วเราอยากจะเริ่มต้นใหม่มันไม่ใช่เรื่องผิด  มันไม่มีกฎอะไรตายตัวเลยนะที่จะบอกว่าผู้หญิงที่ผ่านการมีลูก การหย่าร้างมาแล้วไม่สามารถที่จะมีครอบครัวใหม่ได้  ใดๆคือ เรื่องของเขา หัดยินดีกับคนอื่นให้เป็นบ้างค่ะ  ( ไม่ได้โกรธใครนะ และไม่คิดจะฟ้องด้วย เพียงแต่มาเตือนสติเพื่อนมนุษย์ ) #ท้องเองเลี้ยงเองแต่ลำบากชาวเน็ต"