ผอ. รร. สวีวิทยา แจงขอความเป็นธรรม สื่อ-ผู้ปกครอง(บางราย) ตีความข้อห้ามระเบียบโรงเรียนผิด
3 เม.ย. 2567, 13:11
วันนี้(3 เมย. 67) เวลา 10.00 น. ณ รร. สวีวิทยา ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร จากกรณีที่ นายไกรวัลย์ สังฆะสา ผอ.รร.สวีวิทยา ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร ได้ออกประกาศ ยกเลิกระเบียบการแต่งกายของนักเรียนสวีวิทยา จนสร้างความแปลกใจให้กับผู้ปกครอง ล่าสุด นายไกรวัลย์ สังฆะสา ผอ.รร.สวีวิทยา ก็ได้ออกคำสั่งยกเลิกระเบียบในข้อ 15 และ ข้อ 16 หลังมีผู้ปกครองออกมาเรียกร้องก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะข้อความในข้อ 15 ที่ระบุว่า “ห้ามนำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาโรงเรียน หากตรวจพบทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นและไม่ให้คืนในทุกกรณี“ และ ข้อ 16 ที่ระบุว่า ”ห้ามนำอุปกรณ์แต่งหน้า ทำผมและเครื่องประทินผิวพรรณทุกชนิด มาโรงเรียน หากตรวจพบทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นและไม่คืนให้ในทุกกรณี“ ล่าสุด ช่วงสายของวันนี้(3 เมย. 67) นายไกรวัลย์ สังฆะสา ผอ.รร.สวีวิทยา ได้ออกมาชี้แจงถึงการประกาศ ยกเลิกคำสั่งระเบียบการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสวีวิทยา ประจำปีการศึกษา 2567 ที่จะใช้ในภาคเรียนที่จะถึงนี้ออกไปก่อน นายไกรวัลย์ สังฆะสา ผอ.รร.สวีวิทยา กล่าวว่า ระเบียบของโรงเรียนว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียน รร. สวีวิทยา ของเรา เป็นระเบียบเก่าที่ใช้มาจนถึง ปี 64 และเราก็นำมาใช้จนถึงปัจจุบันและตนก็ไม่ได้มีการแก้ไขข้อความใดๆเลย สำหรับในกรณีข้อห้ามข้อที่ 15 ที่ว่าด้วย ”การห้ามนำอุปกรณ์โทรศัพท์มาใช้ในโรงเรียน“ ถูกนำไปตีความหมายจนผิดประเด็น โดยไปเหมาร่วมว่า “ห้ามนำโทรศัพท์เข้ามาใช้ในโรงเรียน” ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็มีโทรศัพท์ใช้เพื่อการศึกษาแล้วแทบทั้งสิ้น เช่น ส่งการบ้าน-รายงานออนไลท์ เรียนออนไลน์ แต่ข้อความที่ว่า “ห้ามนำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาในโรงเรียน“ ซึ่งก็ได้บางคนไปตีความรวมถึงมือถือด้วย ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ไช่ ทางโรงเรียนเราก็ไม่ได้ห้ามนะ ยกเว้นครูบางวิชา ที่เขาได้ตกลงกับนักเรียนในห้อง บางรายวิชาเท่านั้น“ แต่ก็มีสื่อโซเขียนบางรายที่ไม่ทราบความเป็นจริงในโรงเรียน แล้วนำไปเสนอข่าวจนสร้างความเข้าใจผิดไปจากความจริงที่เป็นอยู่ของโรงเรียนในปัจจุบัน ในส่วนข้อห้ามข้อที่ 16 ที่ว่าด้วย “ห้ามนำอุกรณ์แต่งหน้าทำผม และเครื่องประทินผิวมาโรงเรียน“ ซึ่งเราก็ไม่ได้เข้มงวดนะ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน แต่อย่าให้มากจนเกินงามแต่ขอให้อยู่ในกรอบของความเป็นนักเรียนก็แค่เท่านั้น ซึ่งเร็วๆนี้ ผมจะเรียนครูและกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนมาร่วมประชุม เพื่อสร้างความเข้าใจให้เป็นไปในทางเดียวกันทั้งโรงเรียน นักเรียนและผู้ปกครอง ยกตัวอย่างเช่น ข้อที่ 11 ที่ระบุว่า “คิ้วไม่ถอน ไม่โกน ไม่กัน ไม่เขียนคิ้ว” ปัญหาที่โรงเรียนพบบ่อยคือ หากมีนักเรียนตกแต่งคิ้วที่มีรูปทรงผิดแปลกไปจากธรรมชาติ หรือแต่งคิ้วตามแฟชั่นในสถานศึกษาอย่างนี้ทำไม่ได้ เราถึงห้าม หรือ ข้อที่ 14 ห้าใส่คอนแทคเลนส์ ในกรณีสายตาสั้นก็ให้ใส่แว่นหรือคอนแทคเลน์ปกติได้ แต่ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ชนิดบิ๊กอายส์หรือคอนแทคเลนส์สีตามแฟชั่น เหตุเพราะอาจจะติดเชื้อและสร้างผลเสียทางสายตาให้กับนักเรียนได้ อย่างนี้คือสิ่งที่เราห้าม ส่วนในข้อที่ 15 ที่เป็นข่าวที่ระบุว่า “ห้ามนำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาโรงเรียน” คำว่า “อุปกรณ์โทรศัพท์” คืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนควบเช่น หูฟังไร้สาย สายชาร์ท โดยเฉพาะสายชาร์ท ปลั๊กเสียบที่โรงเรียนมีจำกัด และเมื่อมีหลายๆคนมาเสียบ ก็ย่อมเกิดความร้อนที่ปลั๊ก อันจะก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ทุกวันนี้ทางโรงเรียนเราก็อลุ่มอล่วยให้นะ ไม่ใช่ห้ามอย่าไร้เหตุผล ดังนั้นข่าวที่ปรากฏในขณะนี้ได้สร้างความเข้าใจผิดอย่างมากให้กับโรงเรียนสวีวิทยา ดังนั้น ตนจึงฝากสื่อทุกสื่อและสื่อโซเชียน หากนำเสนออะไร ได้โปรดนำเสนอในสิ่งที่เป็นจริงและสร้างสรรค์สังคม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับโรงเรียนด้วย นายไกรวัลย์ สังฆะสา ผอ.รร.สวีวิทยา กล่าวปิดท้าย ทางด้าน ด.ช.เมธาสิทธิ์ สมศรี กล่าวว่า เห็นข่าวแล้วก็งง เพราะโรงเรียนสวีวิทยา ก็ไม่ได้ห้ามนักเรียนนำมือถือมาโรงเรียนนะ ทั้งยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์มือถือมาช่วยในการเรียนการสอนบางวิชาด้วยซ้ำ ตนเองก็ งง กับข่าวที่สื่อฯที่นำไปเสนอเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริงได้อย่างไร?