พบชิ้นส่วนระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สังขละบุรี
8 เม.ย. 2567, 05:01
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านซองกาเรียที่จุดล่นน้ำซองกาเรีย หมู 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่งคนหนึ่งพบชิ่นส่วนแผ่นโลหะหรือแผ่นเหล็กที่คาดว่าเป็นชิ้นส่วนของสะเก็ดระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่2ที่ทิ้งใส่ฝ่ายทหารญี่ปุ่นที่สร้างสะพานข้ามลำห้วยซองกาเรียเพื่อให้รถไฟเข้าไปยังประเทศพม่า
ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามทราบมาว่าผู้ที่พบแผ่นโลหะหรือแผ่นเหล็กที่คาดว่าเป็นชิ้นส่วนของระเบิดคือนายสมชัย ภาษี ผู้ประกอบการร้านค้าขายอาหาร นายสมชัย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพบชิ้นส่วนของเหล็กแผ่นนี้เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาในขณะที่ลงไปอาบน้ำในลำห้วย ที่ใต้สะพานปูนซึ่งสร้างคร่อมเส้นทางสะพานรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อจะไปยังประเทศเมียนมา ได้เดินไปสดุตกับวัตถุชิ้นหนึ่งที่จมใต้น้ำจึงได้ใช้ไม้งัดออกมาดูพบว่าเป็นแผ่นเหล็กสีดำสนิมเขรอะความยาวประมาณ 45ซม. ความกว้างประมาณ 3 ซม. หนาประมาณ 2 ซม.น้ำหนักประมาณ 15-20 กก.มีชาวบ้านบางคนบอกว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของระเบิด มันจะเกี่ยวรถไฟหรือเปล่าผมไม่ทราบแต่มันเป็นแผ่นเหล็กกรอบหนาและไม่ใช่เหล็กเหนียว แต่คล้ายเหล็กหล่อผมเคยเอาชิ้นส่วนเล็กๆไปให้ช่างตีมีด ช่างบอกว่าตีมีดไม่ได้มันเป็นเหล็กที่แข็งมาก จึงได้นำชิ้นส่วนนี้มาเก็บไว้ที่ร้านค้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 สื่อNIPPON TV สื่อทีวีชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นพร้อมด้วยผู้สื่อข่าว NIPPON TV ประจำประเทศไทยได้เดินทางมาถ่ายทำบรรยากาศทั่งภายนอกและภายในถ้ำโดยมีนายศุภชัย พลทิพย์ นักข่าวกลางดงของ ไทย ดี บี เอส นายมานะชัย วัฒนาการันย์ และนายศราวุธ ไทรสังขสิริพงศ์ ชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี พาทีมงานถ่ายทำ อย่างละเอียด ซึ่งจากการสำรวจบริเวณปากถ้ำมีดินสไล้น์ลงมาปิดปากถ้ำ จึงต้องมุดหรือคลานเข้าไปสักประมาณ 1-2 เมตร จึงสามารถลุกขึ้นเดินแบบสบายๆ ข้างในไม่อึดอัดเย็นสบาย ถ้ำมีความกว้างประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร มีการเจะลึกเข้าไปจากปากถ้ำถึงปลายปากถ้ำอีกด้านประมาณ 25-30 เมตร กลังจากมีการเสนอข่าว ออกไปก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
สำหรับสมบัติโกโบริ ก่อนหน้านี้เป็นที่สนใจของผู้ค้นหาสมบัติโกโบริ โดยเฉพาะในอดีต ส.ส. ปากกล้าจังหวัดราชบุรี ร.ต.อ. เชาวรินทร์ หรือฉายา ส.ส. สากกระเบือโดยในสมัยนั้นได้ ฉายา“โกโบริน” แห่งถ้ำลิเจีย นั้น เป็นเรื่องราวที่เขาเชื่อว่าในถ้ำลิเจีย จังหวัดกาญจนบุรี มีสมบัติมหาศาลที่ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขนทองจากประเทศอินเดีย และพม่านำมาซุกซ่อนไว้ในถ้ำแห่งนี้ ส.ส. ท่านนี้เขาจึงตั้งทีมขุดหาสมบัติกว่า 100 คน หนึ่งในนั้นมีแม่ชีหนานหล้า ที่อ้างว่าเคยมีสามีเป็นทหารญี่ปุ่น เคยพบตู้รถไฟอยู่ในถ้ำ แต่จากการค้นหากลับไม่พบอะไรเลย ตั้งแต่นั้นมา ร.ต.อ. เชาวรินธร์ ได้ฉายา“โกโบริน” แห่งถ้ำลิเจีย โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับฉายา "สากกระเบือ" เพราะนำสากกระเบือเข้าไปอภิปรายในสภาเป็นที่สนใจจากที่การค้นหาสมบัติญี่ปุ่น ได้ห่างหายไปเกือบ 10 ปี โดยเฉพาะ ส.ส. ราชบุรี นายเชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ก็ได้ถูกจำคุกจากการนำสิ่งของบางอย่างว่าค้นพบในถ้ำลิเจีย ไปอ้างซึ่งสิ่งของนั้นไม่ได้เป็นความจริงไปตามข่าว ซึ่งการค้นหาสมบัติโกโบริ ในช่วงก่อนกว่า 20 ปี โด่งดังมากๆ แล้วผู้เข้าไปค้นหาเสียชีวิตคาถ้ำไปก็ไม่น้อย ยังไม่เจอสมบัติโกโบริแม้แต่ชิ้นเดียวเช่นกัน