"รัฐบาล" จัดกิจกรรมตั้งจุดบริการตรวจรถ/ซ่อมรถ “ฟรี” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 11 – 17 เม.ย. 67
9 เม.ย. 2567, 08:11
วันที่ 9 เมษายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ 2567 รัฐบาล โดยกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำโครงการบูรณาการตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยจะจัดกิจกรรมตั้งจุดบริการตรวจรถ/ซ่อมรถ “ฟรี” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างจิตสำนึกการขับขี่อย่างปลอดภัย
นายคารม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เพื่อดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในทุกมิติ ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางในช่วงเทศกาลฯ โดยกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาหรือ "ศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน (Fix it Center) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการจัดตั้งจุดบริการร่วมฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยกำหนดให้มีจุดบริการร่วมฯ จำนวน 104 จุดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่นและสายรอง โดยจุดบริการดังกล่าวจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย ให้ความช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก (บางพื้นที่) บริการนวดผ่อนคลาย บริการผ้าเย็น น้ำดื่ม ข้อมูลเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยว รายชื่ออู่รถที่เปิดให้บริการ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้เป็นการให้บริการ “ฟรี”
“สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดนักเรียน นักศึกษาปฏิบัติหน้าที่ ในการให้บริการอำนวยความสะดวก แต่ละจุดอย่างน้อยจุดละ 5 คน และในการเดินทางของประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้เดินทาง เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ที่เกิดจากความบกพร่องของตัวรถ ตรวจรถ ซ่อมรถ และผู้ขับรถที่เหนื่อยล้าและง่วงนอน และยังมีบริการ กาแฟ น้ำดื่ม ผ้าเย็น ทุกอย่างบริการฟรี ณ ทุกจุดบริการ ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นการแสดงเจตจำนงในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง อีกทั้ง ยังช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะนักเรียน/นักศึกษา ให้นำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมที่นำไปสู่การลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งร่วมกันกำหนดแนวทางและเป้าหมายในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้มีความสอดคล้องกันทั่วประเทศ” นายคารม กล่าว