สงสัยศพถูกตัดศีรษะลอยน้ำในคลองชลประทานที่ ต.ท่าเรือ ตายเพราะถูกฆาตกรรมอำพราง
11 เม.ย. 2567, 22:16
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันนี้ 11 เมษายน 2567 พ.ต.ต.อุทัย เปี่ยมลาภ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่ามีชาวบ้านโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำมาตามคลองชลประทานสายระบบ-ท่ามะกา เขตเทศบาลเมืองท่าเรือ-พระแท่น หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ ทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังจุดที่พบศพพร้อมประสานแพทย์เวร.รพ.มะการักษ์ จุดที่พบศพพบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำจุดรอรับเหตุ ต.ท่าเรือ และ อ.ท่ามะกา กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตรายนี้ซึ่งร่างกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่สวมเสื้อผ้า แต่ที่น่าอุจาดตาต่อผู้พบเห็นที่สุด คือสภาพศพที่เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้นไม่มีศีรษะ ดูจากร่างกายมีอวัยวะเพศเป็นผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 25-30 ปี เนื้อเยื่อตามร่างการเน่าเปื่อยแล้ว
ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน ที่บริเวณต้นขาทั้ง 2 ข้างมีบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคม
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่สามารถระบุได้ว่า ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เป็นคนไทย หรือคนเมียนมา จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพ ก่อนจะส่งศพไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนหาเบาะแสของผู้ตายรายนี้ว่า เป็นใครมาจากไหน ส่วน เป็นคนไทย หรือคนสัญชาติเมียนมา กันแน่
ซึ่งเบื้องต้นดูจากหลักฐานตามร่างกายตำรวจสันนิษฐาน 2 ประเด็น คือ 1.ถ้าผู้ตายเป็นคนลงเล่นน้ำคลายร้อย ทำไมต้องถอดเสื้อผ้าเปลือยล่อนจ้อนด้วย 2. ถ้าผู้ตายเป็นคนหาปลา ทำไมไม่มีสิ่งของ หรือหลักฐานที่สามารถนะบุได้ว่า เป็นใครมาจากไหน พี่น้องและครอบครัวน่าจะมีการแจ้งหาย 3. สภาพศพคล้ายมีร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้าย
และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิสูจน์หลักฐานของแผนกนิติเวชว่า ร่องรอยการฉีกขาดที่บริเวณลำคอเกิดจากอะไรที่ทำให้ศีรษะหลุดหายไป และรอยบาดแผลที่โคนขาของผู้ตายเกิดจากอะไร ซึ่งน่าจะเป็นบทพิสูจนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้