"กระบะแหกโค้งชนเสาไฟฟ้า" เจ้าของรถลงมาดู จำชื่อตัวเองไม่ได้
13 มิ.ย. 2562, 14:21
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง รับแจ้ง จากศูนย์วิทยุ 191 ระยอง มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ 4 ประตู เสียหลักแหกโค้งกรอกยายชา ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ปากซอยบ้านหนองสนม ซอยพัฒนา6 ม.3 เขตเทศบาลตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จ.ระยอง จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแมค 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน1484 นครราชสีมา ที่ขับขี่มาในฝั่งเลนถนนมุ่งหน้าตัวเมืองระยอง สภาพตัวรถส่วนหัวเก๋งพังยับ ด้านซ้ายของรถจอดสนิทติดกับเสาไฟฟ้า แรงกระแทกของรถทำให้เสาไฟฟ้าหวิดขาด 2 ท่อน ตรวจสอบภายในห้องโดยสาร พบ airbag แตก 2 ลูก ทั้งฝั่งคนขับและฝั่งคนนั่งข้าง กระจกหน้าแตก ล้อแมคด้านขวา แตกเป็นเสี้ยวติดคาเสาไฟฟ้า ตัวถังกระบะ มีรอยบุบจากแรงกระแทกทั้งสองด้าน
ผู้ขับขี่เป็นชาย จำชื่อตัวเองไม่ได้ อายุประมาณ 40 เศษ สวมเสื้อยืดสีขาว คอปกและแขนเสื้อสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล เดินกระเพก ลงมาจากรถยนต์ แล้วยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าระยอง ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยในละแวกต่างออกมายืนดูด้วยความระทึก ด้วยหวั่นเสาไฟฟ้าจะขาดหักมาทับตัวบ้าน
สอบถามชายจำชื่อตัวเองไม่ได้ ขอใช้นามสมมุติ นายละมุด ได้แจ้งว่าพึ่งเลิกงานมาจากบริษัทแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และกำลังเดินทางกลับบ้านที่ถนนสายล่างระยอง พอถึงจุดเกิดเหตุ เป็นทางโค้งหักซอก รถได้ไปสะดุดกับแนวคลื่นลดความเร็วจึงทำให้รถเสียหลักหมุนไปฝาดเข้ากับเสาไฟฟ้า
ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าระยองได้เก็บหลักฐานและรวบรวมหลักฐานพร้อมกับนัดนายละมุด นามสมมุติ ให้เข้าไปติดต่อชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้เสาไฟฟ้าหวิดขาด2 ท่อน ไม่เกินระยะเวลา 3 วัน หลังจากนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ โดยแจ้งว่าทำงานอยู่ ก่อนจะทำการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าระยอง และ นายละมุด นามสมมุติ ถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง2 ฝ่าย ได้ให้การว่าได้นัดกันแล้วในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายของเสาไฟฟ้าที่เกิดขึ้น จากนั้นตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้เชิญตัวนายละมุด นามสมมุติ ไปสอบปากคำและตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ในร่างกาย ที่ สภ.เมืองระยอง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับโค้งกรอกยายชา แห่งนี้ เคยได้ชื่อว่าเป็นโค้งร้อยศพ มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายรายจากการใช้ความเร็ว ที่เป็นโค้งเกือบจะหักซอก จนชาวบ้านในจังหวัดระยองขนานนามว่าโค้งปราบเซียน เพราะบรรดาเซียนๆที่ชอบใช้ความเร็วเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี้หลายคนแล้ว