ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หนุ่มหลอนยารื้อทุกอย่างบ้านแม่ไปขาย แม้กระทั่งต้นไม้ที่แม่ปลูกไว้ก็ไม่เว้น  แถมขโมยกระสอบถ่านและรถเข็นชาวบ้านมาขนของบ้านแม่ด้วย แม่มาเจอเถียงแม่ไม่ตกฟากด่ากราด เจ้าเป็นคนอยู่บ่ ของที่เห็นไม่ได้เอาไปขายแค่เป็นขยะ   เจ้าตัวบอกยาบ้าไม่เคยเสพไม่รู้จัก เสพแต่ wy เจ้าทุกข์เอาเรื่องตร.จับกุมข้อหาขโมยรถเข็น แม่สบายใจระดับหนึ่งแต่ออกมาคงต้องทุกข์ใจอีก

วันนี้ (14 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพลฯ แอ้ดมินบ้านดุงอัพเดต รับแจ้งจากนางประคอง สีลาวงศ์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านโชคอำนวย หมู่ 6  ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ร้องขอความช่วยเหลือลูกชายเสพยาหนัก ขโมยทุกอย่างในบ้านจะไปขายหมดแล้ว เห็นคาตา ลูกชายรื้อประตูรั้ว ขนของภายในบ้านจะไปขาย  แม้กระทั่งต้นโมกที่ปลูกเอาไว้ยังไม่เว้น หากปล่อยไปแบบนี้ต่อไปโอ่งแดงใบใหญ่ที่มีอยู่ข้างบ้าน 3 ใบไม่เหลือแน่  อยากให้พาไปบำบัดรักษาให้หน่อย 

พบว่าที่บ้านเลขที่ 202/1 ซึ่งเป็นปูนชั้นเดียว มีรถเข็นใส่สิ่งของภายในบ้านไม่ว่าจะเป็น ลวดตาข่ายเหล็ก กระถางดอกไม้ กระจกชั้นวางของในห้องน้ำ เหล็ก จอบ ถังใส่น้ำ ถ้วยโถโอชาม กระสอบถ่านและอีกมากมาย อยู่ในรถเข็นจอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนคนขโมยไม่เห็น โดยผู้เป็นแม่คือนางประคองถึงกับส่ายหัวเพราะลูกชายคือนายวิวัฒน์ หรือ นายเท่ห์ อายุ 27 ปี มารื้อเอาสิ่งของภายในบ้านไปขายจะหมดแล้ว ไม่นานนายเชียงเรียน อายุ 65 ปีเจ้าของรถเข็นออกตามหาหลังมีคนไปขโมยมาจนเจอ  และชาวบ้านอีกคนมาเจอกระสอบถ่านที่ถูกขโมยมาด้วย ขณะที่ถามหาคนที่ขโมยทั้งรถเข็นและกระสอบถ่าน คือนายเท่ห์  ชาวบ้านบอกว่าเดินไปกินข้าวภายในหมู่บ้าน สักพักนายเท่ห์ก็เดินกลับมาบ้าน ถึงกับตกใจเมื่อเจอคนเยอะ ยืนเท้าสะเอวถามทุกคนมาทำไม แม่ก็บอกว่า ทำไมมาขโมยของในบ้านไปขายหมดแบบนี้ นายเท่ห์ก็บอกว่า ในบ้านของมันรกก็เอาออก แม่เป็นอะไร ผมแค่ยืมรถเข็นมาขนของออก แม่ก็ถามว่า ไปยืมรถใครมา ไม่ใช่ขโมยมาหรือเจ้าของรถเข็นไม่รู้ นายเท่ห์ก็ตอกกลับแม่ว่าเดี๋ยวก็จะเอาไปคืนแล้ว แม่มาสร้างความวุ่นวายอะไรกับผม บ้านแม่อยู่อีกหลัง แม่ก็ถามลูกชายว่า มึงงงเป็นอะไรกับกู  มันไม่เกี่ยวกับแม่เลย ผมนอนอยู่นี่ แม่ก็ถามย้ำอีกว่า ไปขโมยรถเข็นและกระสอบถ่านใคร นายเท่ห์ก็เดือดแม่ว่า ไม่เกี่ยวกันเลยผมนอนอยู่ที่บ้านหลังนี้  แม่ก็ตอบกลับไม่เกี่ยวได้ไง กูเป็นแม่มึง แม่จะหาว่าผมเอาโน่นเอานี่ไม่ได้ อันนี้เป็นเศษขยะ ไม่เชื่อว่าเป็นขยะแม่ก็ไปดมดูก็ได้  นายเท่ห์ถามแม่อีกว่า ยังเป็นคนอยู่ไหม มาหาว่าลูกขโมยของแบบนี้ 

นายเท่ห์บอกนักข่าวว่า ผมไม่เคยเสพม้า ยาบ้าผมไม่รู้จัก รู้จักแต่ wy สูบไม่เกินวันละ 5 เม็ด จากนั้นเจ้าตัวก็อารมณ์ไม่ดีเดินไปนั่งอยู่บนกำแพง ไม่พอใจที่แม่หาว่าตัวเองขโมยของในบ้าน แม่บอกให้ผมมานอนบ้านหลังนี้ อันนี้เป็นบ้านผม ของที่เห็นในรถเข็นมันคือขยะเท่านั้น ผมจะเอาไปทิ้ง และด่ากราดแม่ตลอดเวลา คนเรามันก็มีขโมยของบ้าน มาว่าผมแบบนี้ไม่ได้ นายเท่ห์พูดด้วยความโมโห

 ขณะเดียวกันนายเชียงเรียนเจ้าของรถเข็น ได้แจ้งความดำเนินคดีนายเท่ห์ข้อหาลักทรัพย์ ต่อมาตร.สภ.บ้านดุง เดินทางมาควบคุมตัว และตรวจสอบภายในบ้าน พบอุปกรณ์เสพยาบ้าเต็มพื้นห้อง และมียาบ้าบางส่วนหลงเหลืออยู่ จึงควบคุมตัวนายเท่ห์ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” และตรวจหาสารเสพติดพบฉี่สีม่วง ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางประคอง ผู้เป็นแม่ บอกว่า ทุกข์ใจมากกับนายเท่ห์ลูกชายคนนี้มีลูกชายคนเดียว เคยติดคุก 2 ปีออกมานึกว่าจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ก็ยังมาติดยาเหมือนกัน แล้วจับสลากติดทหารก็หนีออกมา ทหารเขาก็ไม่มาตาม เพราะดูแล้วน่าจะเสพยาหนักเอาเข้าค่ายก็ไม่ได้ ตอนนี้ของทุกสิ่งในบ้านลูกชายรื้อจะเอาไปขายหมดแล้ว ทั้งประตูรั้วบ้าน  คอกไก่ อะไรที่พอจะเอาไปขายได้ เอาไปหมด และทรัพย์สินอื่นๆภายในบ้านอีกมากมาย จะไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนนี้เหลือโอ่งแดง 3 ใบ คงหนีไม่พ้นลูกชายจะขโมยไปอีก แม้กระทั่งต้นโมกที่แม่ปลูกไว้หน้าบ้านยังขุดเอาไปขาย วันนี้ลูกชายคงโกรธแม่หนัก ด่าแม่ใหญ่เลย ทั้งสงสารและโกรธลูกชาย  ติดคุกข้อหาลักทรัพย์แม่คงสบายใจไประยะหนึ่ง แต่พอออกมาคงกลับมาทุกข์ใจเหมือนเดิม

นางจ่อย อายุ 60 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า โอ๊ยแต่ละวันแต่ละคืนชาวบ้านปวดหัวมาก นายเทห์เสพยาหนักจนหลอน เช้าวันนี้ก็มาแกะเอาประตูบ้านไปขาย แจ้งให้แม่เขาทราบ กลางคืนนายเท่ห์ก็อาละวาดทุบประตู กระจกเสียงดังทั่วคุ้ม เราก็กลัว เพราะบ้านอยู่แต่ผู้หญิงได้ยินแทบทุกคืน กลางคืนพอเสพยาจะได้ยินเสียงนายเท่ห์จะร้องอยู่คนเดียวเป็นหลายเสียงมาก ทั้งเสียงคนแก่ เสียงเด็ก เสียงผู้หญิง  เราก็นึกว่าผีเข้า กลางวันพอหลอนยาก็กระโดดไปยืนกำแพงบ้าน ร้องตะโกนถามเด็กๆ ที่ผ่านไปมา สูว่ากูหล่อไหม สูว่ากูสวยไหม สงสัยตอนนี้หนักไปมากแล้ว เพราะเสพยาแท้ๆ