เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คึกคัก! ชาวบ้านทองผาภูมิ แห่ร่อนทองหลังน้ำลด


22 เม.ย. 2567, 17:23



คึกคัก! ชาวบ้านทองผาภูมิ แห่ร่อนทองหลังน้ำลด




วันนี้ 22 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณท่าน้ำเทศบาลตำบลทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พบว่ามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยทั้งในพื้นที่ตลอดจน ถึงพื้นที่ใกล้เคียง และจังหวัดอื่นๆ ต่างพากันมาร่อนทองกันอย่างมากหน้าหลายตา ที่บริเวณแม่น้ำแควน้อย ซี่งลำน้ำไหลมาจากเขื่อนวชิราลงกรณ เดิมมีชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย เป็นเขื่อนอเนกประสงค์โดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

 

สำหรับเขื่อนวชิราลงกรณ เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2522 เสร็จในปี พ.ศ. 2527 หลังสร้างเสร็จ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนเขาแหลมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2529 และต่อมาทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "เขื่อนวชิราลงกรณ" ตั้งขึ้นตามพระนามของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร(พระยศในสมัยนั้น) [1] เขื่อนมีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,369 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่องบริเวณปล่อยน้ำ ขนาดกำลังผลิต 100,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง [1] จากการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว ผลปรากฏว่ามีเขตที่น้ำท่วมถึงถูกที่วัด จำนวน 2 แห่ง คือ วัดม่วงชุม [2] กับวัดพิชัยธาราม [3] อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นคลองสายแร่ทองคำที่มีมาแต่ครั้งโบราณ หรือชาวบ้านเรียกจะเรียกทองที่ได้มาจากลำคลองแห่งนี้ว่า “ทองนพคุณ” เป็นทองคำบริสุทธิ์

 

ทั้งนี้ ปรากฎว่าหลังสถานการณ์น้ำลดจากเหตุน้ำป่าเทือกเขาตะนาวศรีไหลหลากท่วม จนเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านที่มีอาชีพร่อนทองในคลองแห่งนี้สามารถร่อนทองได้มากขึ้นหลายเท่าตัว และเมื่อข่าวแพร่ออกไป ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาร่อนทองเพื่อหาทองกันเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น ด้วยความหวังจะได้ทองไปขายนำเงินที่ได้มาเลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ขาดแคลนรายได้จากอาชีพหลัก ด้านนักร่อนทองคนพื้นที่ (ไม่เปิดชื่อ) เปิดเผยว่า หลังน้ำลดได้มาร่อนทอง ตั้งแต่ช่วง สายๆ และก็ได้ทองมาส่วนหนึ่งแล้ว ส่งเก็บไว้ดูเล่น ขายก็คงไม่มีใครเอาเพราะมันน้อยเกินไป ซึ่งเวลาว่างๆก็ มาร่อนทองก็ถือว่าเป็นงานอดิเรก อีกอย่างหนึ่ง วันหนึ่งก็มาหลายชั่วโมงอยู่ แต่บางทีพอน้ำมาน้ำขึ้นก็กลับบ้าน ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้มาทุกวัน เพราะสู้ค่ารถไม่ไหว วันหนึ่งไปกลับก็ 80 บาท

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.