วันที่ 24 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีอดีตสามีพาป้าเล็กวัย 52 ปี ไปมีอะไรกันที่วัดร้างแล้วเสียชีวิต เข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อคืน อ้างมีอะไรกันแล้วเสียชีวิติญาติอยากรู้ว่าทำไม่ไม่แจ้งญาติและตำรวจ แต่นำร่างไปทิ้งอำพรางในป่ากก ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างไม่เชื่อสาเหตุการตายที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งมีข้อพิรุธหลายแห่ง อีกอย่างคิดว่าไม่สามารถทำคนเดียวได้แน่นอน

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจจุดที่ศพร่างของนางนิตย์  อายุ 52 ปี หรือป้าเล็ก ผู้เสียชีวิตซึ่งถูกอดีตสามีนำศพไปหมกอำพรางในป่ากกร่องห้วยกลางไร่สับปะรดในพื้นที่หมู่บ้านหนองแก หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะหลัก ห่างจากสำนักสงฆ์และจุดที่พบรถจักรยานยนต์ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ประมาณ 300 เมตร โดยพบว่าจุดเกิดเหตุได้มีญาตินำ (เบียร์ลีโอ) ซึ่งเป็นของชอบที่ป้าเล็กชอบดื่มเป็นประจำมาวางไว้เพื่อเซ่นไหว้บริเวณจุดที่พบศพป้าเล็ก

 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายสมศักดิ์ซึ่งสามีคนปัจจุบันของป้าเล็ก แต่บ้านปิดเงียบไม่พบตัว พบแต่นายสุริยาซึ่งเป็นหลานชายของป้าเล็กบ้านอยู่ใกล้กันบอกว่าออกไปทำธุระข้างนอกยังกลับเข้ามาบ้าน ผู้สื่อข่าวจึงพูดคุยสอบถามถึงกรณีสาเหตุการตายของป้าเล็กที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งญาติพี่น้องและชาวบ้านที่รู้จักสนิทคุ้นเคยกับป้าเล็กผู้ตายต่างไม่มีใครเชื่อตามที่ผู้ต้องกล่าวอ้าง

นายสุริยา อายุ 32 ปี หลานชายของนางนิตย์ หรือป้าเล็ก ซึ่งบ้านอยู่ติดกับบ้านป้าเล็ก กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าอาเล็กจะไปมีอะไรกันกับนายสมบุญในเรื่องของชู้สาว เพราะอาเล็กไม่มีประวัติเรื่องแบบนี้ เป็นคนอัธยาศัยดี รักสนุกเฮฮา และด้วยนิสัยอาเล็กเป็นคนกลัวผีไม่น่าจะขี่รถไปไหนคนเดียวช่วงกลางคืน และไม่มีเหตุผลที่จะไปทำอะไรที่ไม่ดี หากมีอะไรกันจริงก็เป็นเรื่องส่วนตัว และหลังอาเล็กตายทำไมต้องเอาศพไปทิ้งป่ากก แทนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วย กลับนำสิ่งของอาเล็กไปเผา เช่น เสื้อและโทรศัพท์ เพื่อทำลายหลักฐานปกปิดข้อเท็จจริง