"ชาวบ้านนาโยง" รวมกลุ่มปลูกกาแฟ เป็นอาชีพเสริมได้ราคาดี
24 ต.ค. 2562, 13:28
24 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุวิทย์ โพชสาลี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/2 หมู่ที่ 4 ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ในฐานะประธานกลุ่มผู้ปลูกกาแฟช่องเขา เทือกเขาบรรทัด ได้รวมกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างอาชีพเสริม หลังจากที่สภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่นตกต่ำลงเรื่อยๆ และจะหวังพึ่งแต่อาชีพทำยางพาราเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ดังนั้น เมื่อมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านทำอาชีพเสริมในสวนยางพารา จึงได้ชักชวนชาวบ้านรวมตัวกันปลูกกาแฟต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยการส่งเสริมของสหกรณ์การเกษตรนาโยง จำกัด ด้วยการปลูกเอง ทำกินเอง และขายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว จนล่าสุดมีการปลูกกาแฟไปแล้วในพื้นที่อำเภอนาโยง ประมาณ 40,000 ต้น
โดยทางกลุ่มจะเป็นผู้รับซื้อผลผลิตจากสมาชิก คือ เมล็ดกาแฟสด ให้ราคากิโลกรัมละ 20 บาท และกาแฟตากแห้ง ให้ราคากิโลกรัมละ 60-65 บาท ตามเกรด จากนั้นนำมาตากให้แห้ง ก่อนแปรรูปเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว แล้วบรรจุส่งร้านกาแฟสดต่างๆ รวมทั้งนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟดริฟ จำหน่ายซองละ 25 บาท กาแฟดำทั่วไป จำหน่ายซองละ 10 บาท และกาแฟน้ำผึ้ง ส่วนเมล็ดกาแฟที่คั่วแล้ว เกรด A จะขายกิโลกรัมละ 140 บาท เกรด B กิโลกรัมละ 120 บาท และเกรด C กิโลกรัมละ 100 บาท แต่ถ้าหากได้ต่อยอดไปเป็นกาแฟเมล็ดข้าวแล้ว จะมีราคากิโลกรัมละ 300 บาท หรือ หากเป็นกาแฟมานิ จะมีราคากิโลกรัมละ 800-1,000 บาท ขณะที่ดอกกาแฟ หรือเปลือกกาแฟ ยังสามารถนำไปตากแห้งเพื่อทำเป็นชา รวมทั้งยังนำไปทำเป็นสบู่กากกาแฟ ขายในราคาก้อนใหญ่ 20 บาท ก้อนเล็ก 10 บาท ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางกลุ่มอยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ เครื่องสีกาแฟสด เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตออกมาเลย โดยไม่ต้องนำไปตากให้ยุ่งยากและเสียเวลา เนื่องจากภาคใต้มีปัญหาฝนตกชุก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟกับกลุ่มผู้ปลูกกาแฟช่องเขา เทือกเขาบรรทัด นับตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บผลผลิต และการแปรรูป ตามสโลแกน "กาแฟมานิ มาคั่วนี้" โดยติดต่อมาได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ (094) 886-2953