มอดไม้เหิมหนัก! แอบแปรรูปไม้จันทน์หอมในป่ากุยบุรี หลังจากก่อนหน้าพบขบวนการแอบขนไปแปรรูปในพื้นที่ปราณบุรี แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสาวถึงตัวผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด แถมผู้กระทำผิดถูกลงโทษแค่ลักทรัพย์ในที่หลวง และมีกลุ่มบุคคลอ้างเป็นกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ยื่นเสนอเงินขอเคลียร์

วันที่ 30 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.4 (รวมไทย) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ประจวบคีรีขันธ์,ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี, ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, ตำรวจ กก.5 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมกันตรวจยึดไม้จันทน์หอม ที่บริเวณชายเขาเทิกเจ็ดหมื่น พื้นที่หมู่ 6 บ้านยางชุมเหนือ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีแต่ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีการลักตัดไม้ในป่าบริเวณทางลงถนนไทยานนท์(เทิกเจ็ดหมื่น) จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานข้างต้นเข้าตรวจสอบ ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง คณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบเส้นทางเดินจากถนนลงลำห้วยเข้าไปในพื้นที่ป่า คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เดินตามเส้นทางเดินดังกล่าว ตรวจพบกองไม้แปรรูปวางกอง จำนวน 2 กอง และตอไม้ที่ถูกโค่นจำนวน 4 ตอ เดินตรวจสอบพื้นที่โดยรอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุ คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม้แปรรูปกับตอไม้ที่ถูกตัดโค่นดังกล่าวเป็นไม้จันทน์หอม อีกทั้งตรวจสอบไม้แปรรูปไม่พบรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

 

 

 

 

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบไม้แปรรูปของกลางที่ตรวจยึดอย่างละเอียดปรากฎว่าเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ข. ไม้หวงห้ามพิเศษ ลำดับที่ ๕ ชนิดไม้จันทน์หอม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 โดยมีไม้ขนาดความกว้างและยาวแตกต่างกันไป รวมไม้จันทน์หอมแปรรูป จำนวน 58 แผ่น ปริมาตรรวม 0.69 ลบ.ม. โดยค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 119,520 บาท เจ้าหน้าที่ได้ใช้ดวงตรา ย.327 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดไม้ทุกแผ่น/ชิ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ร่วมกันพิจารณแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้

ในการจับกุมครั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ผู้จับได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้จัดทำบันทึกเรื่องราวและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบหมายให้นายอโณทัย เกษมสุขไพศาล พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดกลาง ข.2 หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.4(รวมไทย) นำเรื่องราวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ทำการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป