วันนี้ ( 8 พ.ค.67 ) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณภาพของข้าวหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวจากโครงการจำนำในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ตนเองในฐานะผู้ดูแลหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับข้าว ได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเสียหายให้จัดการปัญหาข้าวที่ค้างคาอยู่กว่า 10 ปี ให้จบ ซึ่งได้ทดสอบโดยการนำไปหุงแล้วลองชิมดู ยืนยันว่าข้าวจะเน่าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา การลงพื้นที่ก็เป็นไปอย่างโปร่งใส จึงขออย่าใช้จินตนาการมาชี้นำความจริง ควรนำความจริงมาคุยกัน เพื่อแก้ปัญหา 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า จากการพิสูจน์ทางกายภาพเบื้องต้น จมูกข้าว หรือเม็ดข้าวยังอยู่ในสภาพดี สีเหลืองของเม็ดข้าวก็เป็นปกติแต่ก็ยังมีกระบวนการสีข้าวให้กลับมาขาวได้ หากมัวแต่วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข คนที่จะเข้ามาซื้อสามารถตรวจสอบคุณภาพได้ ยืนยันว่าไม่นำเรื่องนี้ไปขายชื่อเสียงของประเทศ ไม่อยากให้ดราม่า แต่ต้องช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวมีกระบวนการในการเก็บรักษาเป็นมาตรฐาน และพร้อมจะพิสูจน์ทุกข้อสงสัย

"คาดการณ์ว่าหากสามารถขายข้าวได้ 15-20 บาทต่อกิโลกรัม ยังดีกว่าปล่อยให้สูญเปล่า และต้องช่วยเหลือเจ้าของโกดัง ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียโอกาส ค่าเช่าโกดังที่ค้างจ่าย ตนเองทำงานเปิดเผยทั้งหมด หากประมูลข้าวได้ 200-400 ล้านบาท ก็สามารถนำเงินตรงนี้มาชดเชยตามที่ได้คุยกัน ดีกว่าเสียโอกาส ต้องทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ" นายภูมิธรรม กล่าว