ส่วน น.ส.สุชาลินี อักษรวงศิลป์ เจ้าของรถ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า รู้ดีใจมากเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจกองปราบฯได้ติดตามรถยนต์ของตัวเองมาคืนให้ได้ หลังจากไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา รู้สึกว่าตำรวจที่นี่ไม่ได้ใส่ใจติดตามให้เลย ทั้งที่ตัวเองมีหลักฐานหลายอย่างไปมอบให้ไว้ จนต้องไปร้องกับตำรวจกองปราบปราม จึงได้รถคืนมาต้องขอขอบคุณตำรวจที่เอาใจใส่กับความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนความเป็นมาของเรื่องนี้นั้น เนื่องจากตนเองประกอบธุรกิจให้เช่ารถ แต่ลูกค้าต้องการเช่ารถเก๋ง จึงได้นำรถฟอร์จูเนอร์ไปเปลี่ยนเอารถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า อัสติส ที่ไปจำนำไว้ก่อนนี้แล้วเพื่อมาหมุนสภาพคล่อง กับเจ้าของเพจเฟสบุ๊กชื่อ"พงษ์ศักดิ์รถแลกเงิน" โดยนัดพบกันที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขานครราชสีมา ถ.มิตรภาพขาออก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้น นายพงษ์ศักดิ์ๆ อ้างว่าต้องนำรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาวทะเบียน งพ 2459 นครราซสีมา ไปเปลี่ยนเพื่อนำรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า อัสติส สีขาว ทะเบียน 6กง 4705 กรุงเทพมหานคร ออกมาจากอู่ที่จอดไว้ แต่เมื่อนายพงษ์ศักดิ์ ๆ รับรถไปแล้วก็ไม่สามารถติดต่ออะไร ได้อีกเลยจึงมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายพงษ์ศักดิ์ ๆ ในความผิดฐานยักยอก จนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดยไม่คิดว่าจะนำรถตนมาขายข้ามประเทศดังกล่าว

น.ส.สุชาลินี อักษรวงศิลป์ ผู้เสียหายแฉพฤติการณ์แก๊งมิจฉาชีพนี้ต่อไปว่า ครั้งแรกที่นำรถไปจำนำนั้นเป็นรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า อัสติสขาว ทะเบียน 6กง 4705 กรุงเทพมหานคร ก็นัดกันที่ห้างบริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขานครราชสีมา เข้าใจว่าออฟฟิศอยุ่ที่นั่น พอเอารถเก๋งไปส่งนายพงษ์ศักดิ์ ที่อ้างเจ้าเป็นเจ้าของเพจก็เขียนหนังสือใส่กระดาษให้ว่า ได้รับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แต่หักค่าธรรรมเนียม 5000 บาท ได้รับจริง 45,000 บาท โดยไม่ได้เขียนสัญญา หรือมีการเซ็นสัญญาแต่อย่างใดๆ แต่ให้ตนเซ็นชื่อไว้ ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ ไม่ได้เซ็นชื่ออะไร และเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ผ่านมาได้โอนเงินไปตัดดอก 4,000 บาท ชื่อบัญชี น.ส.สุพิชฌาย์ กำสมุทร ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ เป็นคนรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม.หนักประมาณ 70 กก.ผมหยักศก มีนวดเครา จึงอยากฝากขอเตือนประชาชนผู้ที่ลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพนี้ ส่วนรถเก๋งที่จำนำไว้ก่อนกำลังติดตามอยู่ว่าจะถูกนำไปเก็บหรือขายไปแล้วก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนทำมาหากินสุจริตจะต้องขับรถมาแลกเปลี่ยนกันเลย ทั้งที่เป็นรถเราทั้ง 2 คัน ยังมาถูกมันหลอกว่าจะขับรถฟอร์จูนเนอร์ไปเปลี่ยนเอารถเก๋งที่อู่มาคืนให้ แล้วก็เชิดรถหนีไป ถ้าไม่ได้ตำรวยกองปราบติดตามให้คงเสียรถไปทั้ง 2 คัน