หอการค้าไทย 5 ภาค จ่อเสนอรัฐ ดันโครงการภูมิภาค กระจายการเติบโต
13 พ.ค. 2567, 15:44
วันนี้ ( 13 พ.ค.67 ) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะเร่งนำข้อเสนอแนะ และการทบทวนแผนงานเศรษฐกิจภาคเอกชนจาก ของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ ไปผลักดันโดยตรงกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ในเบื้องต้น อยากเร่งรัดรัฐบาล ขับเคลื่อนโครงการยกระดับ 10 จังหวัดสู่เมืองหลัก ที่ได้มีการประกาศเดินหน้าไปแล้ว เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการสร้างโอกาสและขยายความเจริญไปยังจังหวัดใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งการท่องเที่ยว การค้า การค้าชายแดน รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยได้เริ่ม Kick off โครงการที่จังหวัดนครพนมไปแล้ว และมีแผนจะลงจังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี นครศรีธรรมราช ตรัง ศรีสะเกษ นครสวรรค์ จันทบุรี และกาญจนบุรี รวมทั้งการเร่งเดินหน้าโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดการลงทุนตรงจากต่างประเทศ
ขณะที่ ข้อสรุปแผนยุทธศาสตร์ 5 ภาคในส่วนของภาคใต้ / นายภูวดิท ปรีชานนท์ เลขาธิการหอการค้าภาคใต้ บอกว่า ได้วางแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 เรื่องสำคัญ คือ 1) ผลักดันการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณอ่าวอ่าง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ให้เป็นท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้าเส้นทางเดินเรือในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ 2) โครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติอันดามัน จังหวัดภูเก็ต เป็นศูนย์กลางแสดงสินค้า เจรจา แลกเปลี่ยนธุรกิจการค้าการลงทุน 3) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทย เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรือสำราญภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา4) โครงการพัฒนาการเชื่อมโยงโลจิสติกส์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน สู่ตลาดโลกที่เป็นการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนเชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย
ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า เตรียมแผน “เร่งยกระดับเศรษฐกิจ มุ่งสู่ความยั่งยืน” ให้เป็นดินแดนแห่งการเชื่อมโยงและรุ่งเรืองในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS ผ่าน 4 แผนยุทธศาสตร์สำคัญทั้ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนติดกับ สปป. ลาว ส่งเสริมการขยายผลโครงการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพสูง ชูการท่องเที่ยวสายมูภาคอีสาน เป็น Soft Power ของประเทศ รวมถึงเตรียมความพร้อมในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกที่จังหวัดอุดรธานีในปี 2569
ส่วนภาคกลาง นายธวัชชัย เศรษฐจินดา ประธานหอการค้าภาคกลาง กล่าวว่า ได้กำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลาง 3 ด้าน ได้แก่ ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Hub and Wellness) ยกระดับอุตสาหกรรมทุกมิติ เชื่อมโยงกับ Food Valley และ Innovation Hub และศูนย์กลางโลจิสติกส์เชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ
ทางด้านภาคตะวันออกนายปรัชญา สมะลาภา ประธานหอการค้าภาคตะวันออก กล่าวว่า มีแผนเร่งรัดโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในพื้นที่ EEC ให้แล้วเสร็จได้ทันเวลา ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินภายในปี 2571 โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ภายในปี 2571 โครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาภายในปี 2571 และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ภายในปี 2570 นอกจากนี้ ขอเสนอรัฐบาล ให้ขยายพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC+2) โดยเสนอให้เพิ่มจังหวัดปราจีนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดใน EEC หลังจากที่ประกาศให้จังหวัดจันทบุรี (EEC + 1) และเร่งการลงทุนด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาและยกระดับการศึกษาของไทย โดยตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบการศึกษาและหลักสูตรการศึกษาอย่างเร่งด่วน หลังไทยยังใช้หลักสูตรการเรียนการสอนเดิมมาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ปิดท้ายที่ ภาคเหนือ / นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานหอการค้าภาคเหนือ กล่าวว่า ได้วางแผนจะผลักดันการส่งเสริมพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC-Creative LANNA) ด้วยแนวคิด BCG Economy ผลักดันกฏหมาย ปลดล็อคพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวและศูนย์กลางโลจิสติกส์ โครงการสนามบินพิษณุโลกสู่สนามบินนานาชาติเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจด้วยการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลของผู้ประกอบการ SMEs และ Digital Startup รวมไปถึง การผลักดัน พรบ.อากาศสะอาด
ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภูมิภาค 5 ภาค จากการประชุมฯ ภาคเอกชนจะนำกลับไปผลักดันและขับเคลื่อนต่อกับหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอความคืบหน้าของแผนงานแต่ละภาคในช่วงปลายปี ในการจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2567นี้
สำหรับงานประชุมใหญ่หอการค้าภาค 5 ภาคปีนี้ ยังได้มีการจัดเสวนาและบรรยายพิเศษในหัวข้อสำคัญ ๆ ทุกวัน โดยวันนี้ (13 พ.ค.) มีการหยิบยกเรื่องของการศึกษามาพูดคุย เพื่อเปิดตัวเครือข่าย ALL OF EDUCATION หอการค้า 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษา ภายใต้ หัวข้อ “ALL OF EDUCATION“ ”ร่วมคิด ร่วมสร้าง การศึกษา เพื่อเด็กทุกคน“ โดยมีเวทีนำเสนอ “ความร่วมมือพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา” จากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ALL OF EDUCATION การลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย” โดยย้ำว่า การศึกษาจะเป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อคนไทยหลุดพ้นจากความยากจน การมีทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปัญหาการเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทำให้ไทย ยังติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง
ส่วนการจะบรรลุเป้าหมายให้ไทย มีความเสมอภาคทางการศึกษานั้น จำเป็นต้องใช้พลังของ ALL OF EDUCATION เพื่อสร้างระบบการศึกษาไทยที่ส่งเสริม ให้เด็กเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ไปสู่การสร้างทักษะการทำงาน และสร้างอาชีพได้อย่างเหมาะสม ซึ่งปัจจุบัน มีการ พัฒนาพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษาแล้ว ครอบคลุม 6 ภูมิภาค รวม 20 จังหวัด