เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"คารม" แจงขอให้พิจารณารอบด้าน ปมดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด หวั่นกระทบผู้ปลูก-ใช้รักษาโรค


17 พ.ค. 2567, 14:53



"คารม" แจงขอให้พิจารณารอบด้าน ปมดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด หวั่นกระทบผู้ปลูก-ใช้รักษาโรค




วันนี้ ( 17 พ.ค.67 ) เวลา 11.30 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณี เตรียมพิจารณานำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 
 
นายคารม รองโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวถึงว่า ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. ....  เข้าสู่สภาในตอนนั้น ตนได้กดโหวตควรจะมีกฎหมายมาควบคุมกัญชา โดยตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 กัญชา ถือว่าไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แสดงให้เห็นว่าหลังจากนั้นใครที่ครอบครองกัญชาไม่ผิดต่อกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกดำเนินคดี ตนเองเคยให้การช่วยเหลือ โดยการใช้กัญชาในเชิงของรักษาสุขภาพ ถ้ามีการนำเอากัญชากลับมาเป็นยาเสพติด หมายความว่าต้องถูกดำเนินการจับกุมฐานครอบครองกัญชา โดยโทษถึงขั้นจำคุก
 
นายคารม กล่าวต่อไปว่า มีเครือข่ายที่ติดตามเรื่องกัญชาเครือข่ายหลายภาคส่วน ไม่เห็นด้วยในการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ตนเองเห็นว่าการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเราต้องคิดให้ละเอียด ซึ่งตนเองอยู่ในส่วนของรัฐบาล แต่คิดว่าถ้ามีกฎหมายที่ดีในการควบคุมกัญชาจะเห็นได้ว่า ในหลาย ๆ ที่ เช่น มีร้านอาหาร มีการนำส่วนต่าง ๆ ของกัญชาที่ไม่ใช่สารสกัดผิดกฎหมาย เป็นส่วนประกอบในการประกอบอาหาร ทำประโยชน์ในทางการแพทย์  จึงอยากจะเรียนถึงรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะมีการพิจารณานำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดขอให้ทำการสำรวจจำนวนคนที่ปลูกและทำการพาณิชย์เกี่ยวกับกัญชาในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2567 ในช่วงที่มีการปลดล็อกเรื่องกัญชา เพื่อจะได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ ในส่วนเรื่องยาบ้านั้น เห็นด้วยโดยหลักการ แต่ในส่วนของกัญชานำกลับไปเป็นยาเสพติด ถ้ามีการดำเนินการจับกุมบัญชา ต้องมีการประกันตัวถ้าไม่ได้ประกันตัวก็ต้องมีโทษจำคุก แล้วผู้ที่สนับสนุนจะให้ยืนตรงส่วนไหน เพราะฉะนั้น ตนเองเห็นว่าแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ที่ให้ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาถือเป็นแนวทางที่ดี ซึ่งเป็นทราบดีอยู่แล้วว่ากัญชามีส่วนดี เป็นพืชสมุนไพร และพืชเศรษฐกิจ ถ้าเรามีความรอบคอบตรงส่วนนี้อาจจะสร้างประโยชน์มากกว่า
 
นายคารม กล่าวต่อไปว่า เรื่องของกัญชานั้นมีหลายมุม ซึ่งการที่จะเอากัญชาไปเป็นยาเสพติด จะมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ชุดใหญ่ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประฐาน ทั้งนี้ นายคารม ย้ำว่า บางทีก็ต้องหนักแน่น ในเรื่องของหลักการ ในส่วนการครอบครองยาบ้า 1 เม็ด มีความผิดและยึดทรัพย์ถ้ามีเจตนาค้า ซึ่งในการประชุม ครม. สัญจร เพชรบุรีที่ผ่านมา ตนเองเห็นด้วยอย่างยิ่งในการยึดทรัพย์จากการค้ายาบ้า แต่ในส่วนของกัญชา ต้องยอมรับว่ากัญชานั้นเป็นยาเสพติดและมีประโยชน์ แต่ทั้งนี้สิ่งอื่น ๆ เช่น เหล้า บุหรี่ ก็เป็นสิ่งเสพติดเช่นเดียวกันแต่มีกฎหมายควบคุมได้ มีความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่าต้องมีความระมัดระวังและควรมีข้อมูลว่าผู้ที่ดำเนินธุรกิจได้มีการใช้กัญชาในทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ถึง ปัจจุบัน มีจำนวนเท่าไรควรมีการสำรวจให้แน่นอนก่อนมีการนำเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.