นายกฯ สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำ คาดนี้ปีฝนมากกว่าปีที่แล้ว10%
28 พ.ค. 2567, 15:38
วันนี้ ( 28 พ.ค.67 ) เวลา 12.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมหารือเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายไชยวัฒนา จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม นายชัยวัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานความคืบหน้าในการขุดลอกท่อทั่วกรุงเทพฯ ว่า ได้รับการสนับสนุนอัตรากำลังจากกรมราชทัณฑ์และกองทัพเร่งขุดลอกตามแผนอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องน้ำท่วมถนน ขอให้ทางกระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการทั้งในส่วนของการป้องกันและแก้ไข ซึ่งตนเองจะลงตรวจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง
ด้านเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวคาดการณ์ว่า ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะมีจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10% โดยคาดว่าช่วงเดือนกันยายนนี้ จะมีปริมาณน้ำจำนวนมาก ได้แก่ น้ำฝน น้ำหลาก และน้ำเหนือซึ่งจะไหลลงมายังภาคกลางลงแม่น้ำเจ้าพระยา
นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขุดลอกคลอง ทำคันกั้นน้ำ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำช่วงเดือนกันยายน พร้อมกับให้เตรียมความพร้อมของอุโมงค์ระบายน้ำ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้จัดลำดับความสำคัญการบริหารจัดการน้ำ และการช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วม ให้ดูแลพื้นที่ชุมชนแออัด ประชาชนที่เดือดร้อนเป็นหลัก เพื่อลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนของพื้นที่หน่วงน้ำเพื่อกักเก็บน้ำขอให้เร่งดำเนินการตามแผนให้แล้วเสร็จ เพื่อกักเก็บน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยลดน้ำไหลผ่านพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครได้
“ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทุกครั้งที่ฝนตกเกิดน้ำท่วมขัง พี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนใช้ชีวิตได้ยากลำบากมาก ๆ ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ