ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีประชาชนในพื้นที่ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีใจความว่า หลานโดนรุ่นพี่ทำร้ายที่โรงเรียนในสภาพแบบนี้ ขอความเห็นจากแม่ๆ หน่อยจ้า เราควรทำยังไง พร้อมโพสต์ภาพประกอบเป็นเด็กชายคนหนึ่งใส่ชุดนักเรียน อายุประมาณ 12 ปี สภาพศีรษะแตก มีบาดแผลตามร่างกาย และชุดนักเรียนเปื้อนคราบเลือดจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพบกับผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้าย คือ นางวรรณา  ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของ ด.ช.เอ นามสมมติ อายุ 12 ปี เด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของพื้นที่ ต.ห้วยจันทร์  อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ 

ด.ช.เอ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 เวลาประมาณ 07.00 น. ขณะที่ตนกำลังกวาดใบไม้อยู่  ได้มีรุ่นพี่ผู้ชาย ม.1 และ รุ่นพี่ผู้หญิง ม.2 ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ได้ใช้ให้ตนไปซื้อบุหรี่ให้ แต่ตนไม่ยอมไป จึงทำให้รุ่นพี่เกิดความไม่พอใจ หลังจากนั้น ได้เรียกตนไปที่บริเวณอาคารเก็บของภายในโรงเรียน และเริ่มทำร้ายตน โดยรุ่นพี่ผู้ชาย ม.1 ได้ใช้มีดเหลาดินสอกรีดไปที่แขนขวาของตน และใช้บุหรี่จี้ตามตัวหลายจุด บริเวณลำคอ จำนวน 1 แผล บริเวณหน้าอก จำนวน 1 แผล บริเวณชายโครงด้านซ้าย จำนวน 1 แผล บริเวณหน้าท้อง จำนวน 1 แผล และบริเวณขาขวา จำนวน 3 แผล และหยิบโซ่เส้นใหญ่มาฟาดตน  ขณะที่รุ่นพี่ผู้หญิง ม.2 ได้ใช้ท่อพีวีซี ความยาวประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร ตีเข้าไปที่บริเวณหน้าผากด้านขวาของตนจำนวนหลายครั้ง และนำศีรษะตนโขกกับผนังจนแตก ซึ่งตนพยายามขัดขืน จนสามารถวิ่งหนีออกมาได้ ก่อนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากครูที่โรงเรียน หลังถูกนำตัวส่ง รพ.ขุนหาญ  หลังจากเกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ตนยังไม่กล้าเดินทางไปโรงเรียน เพราะยังหวาดกลัว และไม่อยากไปโรงเรียน หรือไม่เช่นนั้น ก็ให้ตนย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่อื่นดีกว่า

ต่อมา นายยุทธนา พรทิพย์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยได้มอบทุนเยียวยา จากเงินกองทุนสานฝันปันน้ำใจ โดยนายยุทธนา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่มาในวันนี้ เพื่อมาพบปะและเยียวยา รวมถึงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และมาตรการที่ดียิ่งขึ้นในการสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียนของเรา ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งกล้องวงจรปิด สารวัตรนักเรียน ตลอดจนชุมชน ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันจัดการปัญหาดังกล่าว เพื่อปกป้องเด็กทั้งสองฝ่ายที่มีเรื่องกัน  ซึ่งจะมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ ต่อไป

ขณะที่ นางวรรณา ป้าของ ด.ช.เอ เปิดเผยว่า อ.ช.เอ ถูกรุ่นพี่ที่โรงเรียนทำร้ายอยู่หลายครั้ง โดยบางครั้งถูกใช้เถาวัลย์ตี ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนก็ทราบเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะเด็กกลุ่มนี้ เป็นเพื่อนกันและรู้จักกัน เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ครั้งนี้ มันรุนแรงเกินไป จึงได้โพสต์เพื่อขอความคิดเห็นและการช่วยเหลือจากคนอื่น ซึ่งขณะนี้ได้มีหน่วยงานเข้ามาเยียวยาหลานชายของตนบ้างแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ส่วนในเรื่องของคดีความนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ได้มีการนัดไกล่เกลี่ย ในวันที่ 2 มิ.ย.67 ที่จะถึงนี้ ว่าเรื่องจะจบอย่างไร อีกอย่างตอนนี้ หลานชายของตนก็ยังไม่กล้าไปโรงเรียน หรือหากเป็นไปได้ ก็อยากย้ายโรงเรียน เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองแล้วว่า หากหลานชายของตนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อาจจะต้องย้ายโรงเรียน